Last updated: 4 พ.ย. 2562 | 2388 จำนวนผู้เข้าชม |
ย้อนเวลากลับไปในอดีต ครั้งที่ปอร์เช่ได้ให้กำเนิดรถยนต์ SUV คันแรกของค่าย ในชื่อ "คาเยนน์" คงไม่มีใครไม่รู้จัก แรกเริ่มเดิมทีปอร์เช่ตั้งใจสร้างมันให้เป็นรถ SUV ที่สปอร์ตปราดเปรียวเฉดเช่น 911 นั่นหมายถึงการเซ็ตอัพช่วงล่างด้วยสปริงและช๊อคอัพแข็งๆ เพื่อสามารถให้มันเป็นรถที่ขับได้มั่นคงและเกาะถนน และรองรับน้ำหนักที่มากกว่า 911 อยู่เกือบ 2 เท่า แต่มันไม่หมูเลยที่จะทำให้รถที่มีน้ำหนักมากมายขนาดนั้น ขับได้สปอร์ตดุดันแถมยังนั่งสบายในคันเดียวกัน แต่มาวันนี้ เมื่อปอร์เช่นำเสนอสมาชิกครอบครัวคนใหม่ที่มีขนาดเล็กกว่า มีน้ำหนักเบากว่า และขับได้สนุกกว่ามาเป็นทางเลือก แล้วเอาเข้าจริงๆเจ้า Macan ถือได้ว่ามันคือรถสปอร์ต SUV ที่ปอร์เช่อยากสร้างขึ้นมาตั้งแต่แรกก็ว่าได้ เพราะมันนี่แหละที่เรียกได้เต็มปากว่า เป็นรถยนต์สปอร์ต SUV พันธุ์แท้เมื่อเทียบกับพี่ของมัน
หลังจากที่ Macan ได้ขายออกสู่ตลาดโลกได้ไม่นาน ไม่แปลกใจเลยว่ามันจะเป็นรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของปอร์เช่ หากนับย้อนหลังไป 4 ปีที่ผ่านมา รวมยอดขายทั้งหมดมากกว่า 350,000 คันทั่วโลก
สูตรสำเร็จในการพัฒนา Macan เจน2 สืบทอดต่อจากเจน1 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากนั้น ก็ใช้สูตรเดิมตามสไตล์ปอร์เช่ที่มักไม่เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก จุดสังเกตที่เห็นได้ชัดก็คือ ไฟท้ายเรียวยาวลากยาวจากซ้ายจรดขวา ดีไซน์เดียวกับ 992 ใหม่ ที่ถูกถ่ายทอดไปสู่ทุกโมเดลในตระกูล
จุดสังเกตอื่นๆ ที่ถูกดีไซน์ใหม่ที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าจากภายนอก ก็จะมีดวงโคมไฟหน้าแบบ LED ใหม่ และช่องดักลมหน้าขนาดใหญ่เท่านั้น นอกนั้นเหมือนเดิมทุกประการ
ส่วนภายใน ยังไม่ไฮเทคเหมือนคาเยนน์ตัวใหม่สักทีเดียว ที่หันไปใช้แผงควบคุมกระจกแบบสัมผัส แต่ยังคงไว้ซึ้งปุ่มกดแบบดั้งเดิม ตื่นตากับหน้าจอ LCD แบบสัมผัส ขนาดใหญ่เต็มตากว่าเดิม (10.9") ที่บรรจุระบบควบคุมความบันเทิงภายในรถสมบูรณ์แบบ (PCM)
ช่วงแรกจะออกทำตลาดด้วยเครื่องยนต์ 2 รุ่น เริ่มจากเครื่องยนต์ 4 สูบเทอร์โบ 2.0 ลิตร 252 แรงม้า และเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบคู่ 3.0 ลิตร 354 แรงม้า เครื่องยนต์ทั้งคู่ไม่ได้เป็นการยกมาจากเจนแรกเฉยๆ แต่มันถูกปรับแต่งใหม่หมดให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทั้งในเรื่องสมรรถนะและในเรื่องของความประหยัด โดยเครื่องยนต์ทั้ง 2 รุ่นนี้ ได้ถูกปรับแต่งให้คลายไอเสียลดลงอย่างมาก
ด้านระบบส่งกำลังยังคงใช้เกียร์ PDK ที่ถูกปรับแต่งอัลกอริทึมใหม่ ให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ยอดเยี่ยมกว่าเดิมในโหมดออโตเมติก โดยกล่องสมองกลจะเข้ามาเรียนรู้พฤติกรรมการกดคันเร่งของคนขับ ได้อย่างชาญฉลาดกว่าเดิม เพื่อนำข้อมูลไปประมวลผลอย่างรวดเร็ว สำหรับการสั่งการเพื่อเปลี่ยนเกียร์ขึ้นสูงหรือลดเกียร์ลงต่ำ เพื่อสอดคล้องกับการขับขี่ของคนขับได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า Macan มันเป็นรถสปอร์ต SUV แท้ๆ มาเจนใหม่ยิ่งเจ๋งกว่าเดิมขึ้นไปอีก ด้วยการลดน้ำหนักชิ้นส่วนของระบบกันสะเทือนหน้าลงไป 1.5 กิโลกรัม และหันมาใช้สปริงที่ผลิตจากอลูมิเนียม แทนของเดิมที่ทำจากเหล็ก ทำให้มันบังคับทิศทางได้คล่องแคล่วกว่าเดิมมาก สำหรับลูกค้าที่สั่งช่วงล่างถุงลมจะยิ่งประทับใจขึ้นไปอีก เพราะมันได้ถูกปรับปรุงให้การยึดเกาะถนนที่สูงกว่าเดิม แถมนุ่มนวลนั่งสบายในคราวเดียวกัน แถมถูกเพิ่มเหล็กกันโครงเสริม ทำให้รถมีอาการโครงตัวน้อยลงเป็นของแถมอีกด้วย สิ่งที่ทำให้ผมแปลกใจมากที่สุดคือ Macan S มาพร้อมกับล้อขนาดใหญถึง 21" น่าจะเป็นรถ SUV เพียงไม่กี่คันในโลกที่กล้าใส่ล้อขนาดใหญ่ให้ขนาดนี้ เพราะโดยปกติล้อใหญ่ยางแก้มเตี้ยแม้จะเกาะถนนกว่าก็จริง แต่จะต้องแลกมาด้วยความแข็งกระด้าง แต่กับ Macan S เจน2 คันนี้ (ที่ติดตั้งช่วงล่างแบบถุงลม) มันขับได้นุ่มนวลนั่งสบายตลอดทาง แถมยังได้ความคมในการบังคับควบคุม ให้ความรู้สึกที่ส่งผ่านพวงมาลัยกลับมาได้เป็นอย่างดี ตามสไตล์ล้อขนาดใหญ่ที่สวมยางแก้มเตี้ย
ผมขับมันไปบนถนน Mallorca ที่ท้าทายด้วยพื้นผิวถนนที่ไม่ราบเรียบ แถมคับแคบอีกต่างหาก แต่ก็สามารถขับผ่านได้อย่างฉลุยแม้จะเป็นเส้นทางชนบทก็ตาม จะลงตัวที่สุดในสภาวะแบบนี้คือต้องขับในโหมด Normal เพราะระบบจะเซ็ตให้ช่วงล่างนุ่มนวล เพื่อรองรับสภาพถนนที่ไม่ค่อยดีแบบนี้ได้อย่างสบายๆ
แรงม้าในระดับ 354 hp ของ Macan S มากเกินพอที่จะสร้างความมันส์ เร้าอารมณ์ในทุกย่านความเร็ว ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม/ชม ใช้เวลาเพียง 5.1 วินาทีเท่านั้น ส่วน Macan รุ่นแสตนดาร์ดที่ให้แรงม้าอยู่ที่ 252 hp จะทำได้ช้ากว่า 1.4 วินาที ความเร็วปลายทั้งคู่ทำได้ 254 กม/ชม ในตัว Macan S เทียบกับ 225 กม/ชม ในตัว Macan รุ่นแสตนดาร์ด ตัวเลขอัตราเร่งของทั้ง 2 คันจะทำได้ดีกว่านี้อีก 0.2 วินาที ถ้าสั่งติดตั้งระบบ Sport Chrono Package
ผมประทับใจเครื่องยนต์ 4 สูบ 2 ลิตรเทอร์โบบล็อกเล็กในตัวแสตนดาร์ดเป็นอย่างมาก เพราะมันสามารถไล่ตาม Macan S ได้อย่างน่าทึ่ง เครื่องยนต์บล็อกนี้สามารถลากรอบได้สูงสุดถึง 6,800 รอบ/นาที นับว่าเป็นเครื่องเทอร์โบรอบจัดแรงไม่ตก ยิ่งจับคู่กับเกียร์ PDK 7 สปีดด้วยแล้ว ช่วยทำให้เครื่องยนต์เล็กบล็อกนี้ ไล่ตามเครื่องยนต์บล็อกใหญ่ๆได้สบาย แต่ถ้าหากพละกำลังที่มากกว่าคือสิ่งที่คุณต้องการ Macan S คือคำตอบ
เป็นอีกครั้งที่สามารถพูดได้เต็มปากว่า ไม่มี SUV ขนาดกลางหน้าไหนมาเทียบชั้น Macan S ได้อีกแล้ว ถ้าวัดกันในเรื่องความมันส์เร้าใจในการขับขี่แบบรถสปอร์ตแท้ๆ ถือเป็นการรักษาแชมป์ไว้ได้อีกครั้งของผู้ผลิตรถสปอร์ต ที่สามารถทำรถ SUV ได้ดีขนาดนี้
Text : Andre Lam
Translated : Link
Photo : Frank Ratering