Last updated: 17 ม.ค. 2566 | 575 จำนวนผู้เข้าชม |
เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ประกาศยอดจองทั่วโลกกว่า 15,174 คันในปี 2565 เพิ่มขึ้นกว่า 4% จากสถิติของปีที่ผ่านมา (14,659 คัน) ในปี 2564 และถือเป็นครั้งแรกที่เบนท์ลีย์ มอเตอร์สมียอดจองมากกว่า 15,000 คัน โดยความสำเร็จครั้งสำคัญนี้ สืบเนื่องมาจากการเปิดตัวอัครยนตรกรรมรุ่นใหม่และความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของคำสั่งการออกแบบเฉพาะตัวแบบ Mulliner และประกอบกับการเปิดรับคำสั่งจองของอัครยนตรกรรมแบบไฮบริดรุ่นใหม่ ซึ่งจะปูทางสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบภายในปี 2573 ตามกลยุทธ์ Beyond100
ความต้องการของอัครยนตรกรรมแบบเอสยูวี ทำให้ Bentayga ยังคงเป็นอัครยนตรกรรมรุ่นที่มียอดจองสูงที่สุดของเบนท์ลีย์ด้วยยอดจองที่สูงที่สุดในปีที่ 6 หรือคิดเป็นกว่า 42% ของยอดจองทั้งหมด ส่งผลให้อัครยนตรกรรมแบบเอสยูวีรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ประสบความสำเร็จสูงที่สุดตลอดกาลรุ่นหนึ่งของโลก
นอกจากนี้ ยอดจองของอัครยนตรกรรมสปอร์ตคูเป้ รุ่น Continental GT และ GT Convertible ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบหนึ่งในสามของยอดจองทั้งหมด หรือคิดเป็น 30% ผนวกกับการเปิดตัวรุ่น GT Speed รุ่นใหม่ที่มุ่งเน้นสมรรถนะ และถือเป็นอัครยนตรกรรมสมรรถนะสูงที่สุดของเบนท์ลีย์ โดยรุ่น GT Speed ครองสถิติยอดจองสูงสุดถึง 31% ในบรรดารุ่นย่อยของ Continental GT
สำหรับอัครยนตรกรรมสปอร์ตซีดาน Flying Spur ซึ่งเป็นยนตรกรรมแกรนด์ทัวเรอร์ 4 ประตูสุดหรูที่ดีที่สุดของโลก มียอดจองสูงถึง 28% ของยอดจองทั้งหมด โดยเป็นผลมาจากการเปิดตัวอัครยนตรกรรมแบบไฮบริดรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นอัครยนตรกรรมที่ล้ำสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และนับตั้งแต่การเปิดตัว Flying Spur Hybrid มียอดจองกว่า 30% ในบรรดารุ่นย่อยของ Flying Spur เช่นเดียวกับในสหราชอาณาจักร ยอดจองกว่า 2 ใน 3 ของ Flying Spur เป็นแบบเครื่องยนต์ไฮบริด ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับยอดจองจากทั่วโลก
ภูมิภาคอเมริกายังคงรักษาตำแหน่งในฐานะตลาดที่มีศักยภาพสูงที่สุดของโลก โดยสามารถทำยอดจองสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยในปีที่ผ่านมามียอดคำสั่งจองของ Bentley Mulliner เพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา