Last updated: 14 มี.ค. 2566 | 627 จำนวนผู้เข้าชม |
EQB 250 AMG Line ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า 100% ภายใต้แบรนด์ Mercedes-EQ รุ่นล่าสุดที่ผลิตและนำเข้า (CBU) มาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย มาพร้อมรูปแบบตัวถังแบบรถเอสยูวีที่ใช้แพลตฟอร์มเดียวกันกับ GLB โดย EQB ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) ด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ PSM (Permanently Excited Synchronous Motor) ที่ให้พลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 385 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในระยะเวลา 8.9 วินาที ในด้านของแหล่งพลังงาน รถยนต์คันนี้ใช้แบตเตอรี่ Lithium-ion แบบแรงดันสูง (High-Voltage) มีความจุแบตเตอรี่ 66.5 kWh สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 460 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP สำหรับการชาร์จไฟฟ้า EQB รองรับการชาร์จกระแสตรง DC สูงสุด 100 kW ใช้เวลาชาร์จจาก 10-80% เพียง 32 นาที และรองรับการชาร์จกระแสสลับ AC สูงสุด 11 kW ใช้เวลาชาร์จจาก 0-100% ในระยะเวลา 6 ชั่วโมง 50 นาที โดยมาพร้อม Mercedes-Benz Wallbox Home รุ่น 2.0 ที่มาพร้อมระบบป้องกันฝุ่นกันน้ำ ตามมาตรฐาน IP55/IK10 นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมการชาร์จไฟฟ้าและอัปเดตซอฟต์แวร์ได้แบบ OTA (over-the-air) ผ่านแอปพลิเคชัน Mercedes me
นอกจากความโดดเด่นของการเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่สามารถมอบประสบการณ์การขับขี่แบบไร้มลพิษ (Zero-emission) แล้ว EQB ยังมาพร้อมการดีไซน์ที่แฝงไปด้วยความหรูหราภายใต้แนวคิด “Progressive Luxury” ตามแบบฉบับของแบรนด์ Mercedes-EQ รวมถึงความสะดวกสบายที่มาจาก
มิติตัวถังขนาดใหญ่ด้วย
ความยาว 4,687 มม.
ความกว้าง 2,020 มม. ความสูง 1,667 มม.
ระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,829 มม.
โดยในด้านของการออกแบบภายนอก EQB มีการตกแต่งรอบคันแบบ AMG bodystylingมาพร้อมกระจังหน้าแบบ Radiator grille พร้อมแถบคาดกระจังหน้าโครเมี่ยมแบบ Twin blade ที่ดีไซน์รับกับโลโก้ดาวสามแฉกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้อย่างลงตัว ต่อเนื่องด้วยโคมไฟหน้าความละเอียดสูงแบบ LED High Performance ตกแต่งเส้นสายไฮไลท์สีฟ้าแสดงถึงการเป็นรถในตระกูล Mercedes-EQ และมีการติดตั้งระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist) พร้อมติดตั้งราวหลังคาอลูมิเนียมในสไตล์ของรถเอนกประสงค์ และล้ออัลลอยด์ดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ Multi-spoke ขนาด 20 นิ้ว
ในด้านการออกแบบภายใน EQB 250 AMG Line มาพร้อมนวัตกรรมและความสะดวกสบายอย่างไร้ที่ติ สะท้อนความหรูหราและความสปอร์ตทั่วทั้งห้องโดยสารด้วยการดีไซน์แบบ AMG ตั้งแต่คอนโซลหน้าที่ตกแต่งแบบ Aluminium-look ไปจนถึงเบาะหนังสไตล์ AMG ที่หุ้มด้วยหนัง ARTICO ตัดสลับกับ MICROCUT microfibre สีดำ พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนัง Nappa และแป้นควบคุมการคืนพลังงานไฟฟ้า (Regenerate) แบบ Paddle shift ที่ทำจากวัสดุ Galvanished steel ในด้านของฟังก์ชั่นการใช้งานและความบันเทิง EQB มีระบบการแสดงผลและระบบควบคุมฟังก์ชั่นการใช้งานด้วยหน้าจอแสดงผลความละเอียดสูงแบบ All-digital instrument display ขนาด 10.25 นิ้ว และหน้าจอแสดงผลบริเวณคอนโซลกลางขนาด 10.25 นิ้ว โดยมีการติดตั้งระบบอินโฟเทนเมนต์ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างระบบ MBUX6 ที่สามารถควบคุมฟังก์ชั่นการทำงานภายในรถได้อย่างง่ายดาย
อีกหนึ่งความโดดเด่นของ EQB คือความสะดวกสบายและความเอนกประสงค์ตามแบบฉบับรถเอสยูวีโดยมีความจุสัมภาระสูงสุด 1,710 ลิตร พร้อมติดตั้งฟังก์ชั่นที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารมากมาย ทั้งระบบปรับเบาะแบบไฟฟ้าที่มาพร้อมระบบหน่วยความจำแบบ memory seat ทั้งเบาะผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติแยก 2 โซนแบบ THERMOTRONIC พร้อมการควบคุมระบบปรับอากาศผ่านสมาร์ทโฟน ระบบไฟ Ambient Light 64 เฉดสี ที่สร้างบรรยากาศให้กับห้องโดยสาร หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เลื่อนเปิด - ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า (Electric Panoramic sliding roof) ระบบเปิด – ปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้มือ (HANDS-FREE ACCESS) ระบบการเชื่อมต่อแบบ Smart Phone Integration ที่รองรับทั้งระบบ Apple CarPlayTM และ Android Auto รวมถึงการติดตั้งระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless charging system) สำหรับที่นั่งด้านหน้า
EQB 250 AMG Line มีการติดตั้งระบบความปลอดภัยที่เหนือระดับมากมาย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ในทุกเส้นทาง โดยนอกจากระบบความปลอดภัยมาตรฐานต่างๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์แล้ว EQB ยังได้เสริมระบบความปลอดภัยขั้นสูง ไม่ว่าจะเป็น
ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist)
ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ (Active Brake Assist)
ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ พร้อมกล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยจอด (Parking Package with reversing camera)
ระบบรักษาระดับความเร็ว (CRUISE CONTROL)
ระบบดูดซับแรงสั่นสะเทือน (Adjustable damping)
ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST)
ระบบแจ้งเตือนยานพาหนะขณะเปิดประตูรถ (Exit warning function)
และระบบแสดงสถานะลมยางพร้อมระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยาง (Tyre pressure monitoring system) ฯลฯ
พบข้อเสนอพิเศษที่งาน Motor Show 2023 บูธ A19 อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี
22 มีนาคม - 2 เมษายนนี้