Last updated: 7 มิ.ย. 2567 | 229 จำนวนผู้เข้าชม |
เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เผยโฉม Batur Convertible อัครยนตรกรรมสปอร์ตแบบเปิดประทุน รุ่นตัวถังออกแบบพิเศษโดย Bentley Mulliner แผนกออกแบบพิเศษของเบนท์ลีย์ มอเตอร์สและเป็นผู้ผลิตตัวถังรถยนต์ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานที่สุดของโลก โดย Batur Convertible ถือเป็นอัครยนตรกรรมออกแบบพิเศษรุ่นที่ 3 หลังจากการเปิดตัวรุ่น Bacalar และ Batur แบบคูเป้ สำหรับอัครยนตรกรรมรุ่นพิเศษรุ่นนี้จะประกอบขึ้นเพียง 16 คันเท่านั้นด้วยนวัตกรรมทั้งในด้านสีสันและวัสดุพิเศษจากแรงบันดาลใจของความลึกล้ำแห่งธรรมชาติที่ถือเป็นครั้งแรกของเบนท์ลีย์
Batur Convertible เป็นการต่อยอด DNA การออกแบบของรุ่น Bacalar และ Batur แบบคูเป้ที่จะเป็นแนวทางสู่การออกแบบอัครยนตรกรรมเบนท์ลีย์ในอนาคต สำหรับ Batur Convertible มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์รุ่น W12 มอบพละกำลังกว่า 750 แรงม้าจากเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ขนาด 6.0 ลิตร ซึ่ง Batur Convertible จะถือเป็นอัครยนตรกรรมเบนท์ลีย์รุ่นสุดท้ายที่มาพร้อมกับขุมพลังที่ทรงสมรรถนะที่สุดของเบนท์ลีย์รุ่นนี้
แกรนด์ทัวเรอร์รุ่นพิเศษแบบ 2 ที่นั่ง
เบนท์ลีย์และอัครยนตรกรรมแบบเปิดประทุนมีประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่แบรนด์ถือกำเนิดขึ้นในปี 2462 ไปจนถึงอัครยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Bacalar การรังสรรค์รุ่น Batur Convertible ช่วยให้นักออกแบบจากมูลินเนอร์ได้คิดค้นรูปแบบพิเศษที่ไม่เพียงแต่การผสมผสานงานออกแบบของ Bacalar และ Batur เท่านั้น แต่ยังรวมถึงคุณสมบัติของอัครยนตรกรรมแบบเปิดประทุน ซึ่งนักออกแบบยังได้เลือกที่จะเน้นคุณสมบัติแบบสองที่นั่งด้วยห้องโดยสารที่โอบล้อมไปด้วยแรงบันดาลใจจากการออกแบบรุ่น Bacalar
การออกแบบ 'Airbridge' หรือฝาครอบบริเวณด้านหลังเบาะโดยสารทำให้นึกถึงรถยนต์สปอร์ตแบบเปิดประทุนในยุคเก่าที่เน้นสมรรถนะและผู้ขับขี่ สำหรับฝาครอบดีไซน์พิเศษไม่เพียงแต่จะสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีช่องเก็บสัมภาระด้านหลังเบาะโดยสารทั้งสองอีกด้วย
หลังคาเปิดประทุนได้มอบสุนทรียภาพแห่งความงามอันร่วมสมัยแทนที่หลังคาแบบแข็ง การผสมผสานระหว่างวัสดุฉนวน การพัฒนาระบบซีล และการควบคุมเสียงทำให้เกิดสภาพแวดล้อมภายในห้องโดยสารที่เงียบสงบ หลังคาแบบเปิดประทุนสามารถเปิดออกและจัดเก็บได้ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 19 วินาทีในขณะที่รถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 50 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง ผู้ขับขี่จึงสามารถเปลี่ยนโฉมจากอัครยนตรกรรมสปอร์ตคูเป้สุดหรูสู่แกรนด์ทัวเรอร์แบบเปิดประทุนได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
การรังสรรค์ในแบบเฉพาะตัวที่มีเอกลักษณ์
ทีมออกแบบจากมูลิเนอร์และลูกค้าจะได้รังสรรค์ Batur Convertible ร่วมกันผ่าน Mulliner Visualizer ที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษเพื่อการออกแบบอัครยนตรกรรมรุ่นพิเศษด้วยการปรับแต่งสีและพื้นผิว พร้อมด้วยการนำตัวอย่างวัสดุที่มีเอกลักษณ์เฉพาะมาเข้าสู่กระบวนการ ผลที่ได้คือดีไซน์ในแบบเฉพาะตัวที่มีเอกลักษณ์อย่างแท้จริง
สำหรับตัวเลือกของเฉดสีที่หลากหลายเริ่มด้วยชุดสีจากมูลินเนอร์แบบเต็มรูปแบบไปสู่เฉดสีที่รังสรรค์ขึ้นตามความต้องการ หรือแม้แต่กราฟิกที่วาดด้วยมือ สำหรับการตกแต่งภายนอกสามารถรังสรรค์ด้วยการผสมผสานเฉดสีโทนสว่างและเข้ม แบบด้านหรือแบบเงาหรือแม้แต่ไทเทเนียม ตัวเลือกที่ละเอียดอ่อนอีกประการหนึ่งคือการใช้สีตัดกันแบบไล่ระดับกับกระจังหน้าเพื่อให้ได้เอฟเฟกต์แบบออมเบรที่มีชีวิตชีวา
Batur Convertible มาพร้อมกับการออกแบบ Airbridge ให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยฝาครอบปิดส่วนท้ายของรถและวัสดุหลังคาที่สามารถเลือกสรรให้เข้ากับภายในห้องโดยสารและการตกแต่งภายนอกได้
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมกับตัวเลือกเฉพาะสำหรับการพิมพ์แบบ 3 มิติในเฉดสีชมพู Rose Gold ที่ใช้รังสรรค์บนจุดสัมผัสที่สำคัญของผู้ขับขี่ อาทิ แป้นตัวเลือกโหมดการขับขี่ของเบนท์ลีย์บริเวณรอบปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์และโหมดแชสซี และบริเวณคอนโซลกลางที่งดงามที่จะช่วยเสริมการออกแบบและเพื่อให้รับกับกระจังหน้า เฉดสีชมพู Rose Gold ยังได้นำมาตกแต่งกับปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศ Organ Stop อันเป็นเอกลักษณ์ของเบนท์ลีย์บนแผงหน้าปัดและบนพวงมาลัย
เบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ยังได้ร่วมมือกับช่างทองผู้เชี่ยวชาญในย่าน Jewellery Quarter อันเก่าแก่ของเมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเครื่องประดับมาอย่างยาวนานหลายศตวรรษเพื่อการรังสรรค์ชิ้นส่วนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยความร่วมมือพิเศษนี้ได้เน้นย้ำถึงความสามารถของเบนท์ลีย์ในการผสมผสานเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงเข้ากับการเลือกใช้วัสดุและเทคนิคการตกแต่งแบบดั้งเดิม
อัครยนตรกรรมรุ่นพิเศษที่ทรงสมรรถนะ
Batur Convertible ได้รับการรังสรรค์ขึ้นด้วยช่างฝีมือชาวอังกฤษตลอดระยะเวลาหลายเดือนในเวิร์คช็อปของมูลินเนอร์ ณ โรงงานเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เมืองครูว์ ประเทศอังกฤษ อัครยนตรกรรมรุ่นพิเศษจะมีเพียง 16 คันในโลกเท่านั้น โดยจะถือเป็นอัครยนตรกรรมเบนท์ลีย์รุ่นสุดท้ายที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์รุ่น W12 อันทรงสมรรถนะที่สุดของแบรนด์
สำหรับเครื่องยนต์รุ่น W12 ขุมพลังของ Batur Convertible เครื่องยนต์ได้รับการปรับปรุงระบบ พร้อมด้วยเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่อัปเกรด อินเตอร์คูลเลอร์ใหม่ และการปรับจูนใหม่ ทำให้สามารถผลิตพละกำลังสูงถึง 750 แรงม้า แรงบิด 1,000 นิวตันเมตร มอบสมรรถนะที่เหนือชั้นให้กับอัครยนตรกรรมแกรนด์ทัวริ่งรุ่นพิเศษนี้ โดยการพัฒนาเครื่องยนต์รุ่น W12 ถือเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว เครื่องยนต์รุ่น W12 ได้รับการพัฒนาให้ผลิตพละกำลังได้มากขึ้นเกือบ 40% ในขณะเดียวกันก็ยังมอบประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีขึ้น 25% เครื่องยนต์รุ่น W12 มาพร้อมกับเกียร์คลัตช์คู่ 8 สปีดและท่อไอเสียแบบสปอร์ต มอบอรรถรสความสปอร์ตด้วยเสียงที่ไพเราะจากท่อไอเสียดีไซน์พิเศษ ซึ่งระบบท่อไอเสียทั้งหมดผลิตจากไททาเนียม พร้อมการตกแต่งขั้นสุดท้ายด้วยไทเทเนียมแบบพิมพ์ 3 มิติ
Batur Convertible Car #0
รถยนต์ต้นแบบ Batur Convertible Car #0 มาพร้อมกับความใส่ใจในรายละเอียดด้วยงานสีภายนอกแบบพิเศษกับเฉดสีส้มแบบมันเงา Vermillion Gloss และเฉดสีส้มแบบด้าน Vermillion Satin ซึ่งให้สีสันที่สดใสพร้อมกับความร่วมสมัย ตัวถังตกแต่งด้วยสปลิตหน้า สเกิร์ตข้าง และดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังที่ผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์มันวาวสูง
ด้านหน้าของ Batur Convertible Car #0 โดดเด่นด้วยกระจังหน้าที่รังสรรค์ขึ้นอย่างโดดเด่นด้วยดีไซน์เมทริกซ์แบบมันเงาในโทนสีเข้ม Gloss Dark Titanium เน้นด้วยการเล่นสีตัดกันในรูปแบบออมเบรแนวนอนที่ทอดยาวจากเฉดสีดำบริเวณตรงกลางและสว่างขึ้นสู่ด้านข้างด้วยเฉดสีส้มมันวาว Vermillion Gloss พร้อมด้วยเส้นสาย “endless bonnet” ที่เคลือบด้วย Gloss Dark Titanium เช่นเดียวกับล้ออัลลอยด์ที่ออกแบบพิเศษขนาด 22 นิ้วแบบมัน-ด้านในเฉดสีดำ Black Titanium กับการตกแต่งด้วยการเน้นเฉดสีส้ม Vermillion Gloss
เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด พร้อมส่งมอบรถยนต์เบนท์ลีย์ รุ่น Bentayga Hybrid และ Flying Spur Hybrid ทันทีกับสต๊อกเฉดสีและออปชันที่ครบครันและครอบคลุมทุกความต้องการกับราคาที่ดีที่สุด เริ่มต้นที่ 13.7 ล้านบาท พร้อมรับข้อเสนอพิเศษ ‘Crafting Your Dream Offers’ ที่ผู้สนใจครอบครองรถยนต์เบนท์ลีย์สามารถออกแบบแผนการเงินเองได้และทำให้การตัดสินใจเป็นเจ้าของรถยนต์เบนท์ลีย์เป็นเรื่องง่าย และเหนือกว่าด้วยเอกสิทธิ์การบริการหลังการขายมาตรฐานโรงงานผู้ผลิตด้วยการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดที่ ‘นานที่สุด’ ถึง 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) การรับประกันโดยโรงงานผู้ผลิตและสิทธิ์การต่อการรับประกัน (Bentley Extended Warranty) สูงสุด 4 ปี และบริการผู้ช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง (24-hour Bentley Roadside Assistance) นาน 3 ปีเต็ม