Last updated: 4 พ.ย. 2562 | 4021 จำนวนผู้เข้าชม |
Open air รับฤดูฝนที่ฝนไม่ยอมตก ไปกับ แซมมี่ - ปัณฑิตา ภูวิจารย์ เคาวเวลล์ นางเอกสาว
จากสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 และ 2015 Ferrari California T มรดกทางวัฒนธรรมเวอร์ชั่นเทอร์โบชาร์จตราม้าลำพอง สืบทอด DNA จากอมตะโรดสเตอร์ยุค 50s Ferrari 250 GT California และยังเป็นการกลับมาทำโปรดัคชั่นเครื่องยนต์เทอร์โบของ Ferrari เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1987 ม้าลำพองเปิดประทุนคันนี้ได้รับการประกันความสวยใหม่ภายในห้องโดยสาร จากนวตกรรม Age Stop ของ ColorGlo
Open Air กับ 2015 Ferrari California T
โลเคชั่นแปลกดีค่ะ รถสวย โฉบเฉี่ยวตามสไตล์ Ferrari สนุกไปอีกแบบ แต่อุปสรรคคืออากาศ แดดร้อนมาก ทำให้ตอน shooting อดไม่ได้ที่ต้องหรี่ตา ขมวดคิ้ว เพราะแดดเข้าตา และก็ต้องซับเหงื่อบ่อย เป็นปัญหาพอสมควรแต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ ปกติมี่จะถ่ายแฟชั่นในสตูดิโอมากกว่า outdoor ค่ะ แต่ไม่ใช่ไม่รับงาน outdoor นะคะ เพียงแต่ลักษณะงานที่ติดต่อมาจะเป็นในสตูดิโอซะเป็นส่วนมาก
คิดอย่างไรกับการ remake, reproduction
ละครเรื่อง เลื่อมสลับสลาย ที่กำลังออนแอร์อยู่ในปัจจุบันก็ถือเป็นหนึ่งในละครรีเมคที่เคยมีชื่อเสียงมาแล้วในอดีต จะนับไปแล้ว มี่ก็เล่นละครรีเมคมาหลายเรื่องเหมือนกัน ในทัศนะของแซมมี่ ละครรีเมค ต่อให้เวลาเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ตาม ด้วยการดำเนินเรื่องที่ต้องทำตามบทประพันธ์ ทำให้เนื้อหาของละครต้องเหมือนของเดิมอยู่แล้ว แต่ในขณะเดียวกัน ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป สภาพแวดล้อม นักแสดง ทุกอย่างเปลี่ยนไป มี่จึงคิดว่ามันเป็นโอกาสที่เราจะพัฒนาโปรดัคชั่นให้ดีขึ้นไปตามวิวัฒนาการ หมายถึงในส่วนของฉาก งานสร้าง
เสื้อผ้า เทคโนโลยีการตัดต่อ อะไรแบบนี้ แต่สิ่งที่ควรจะรักษาไว้ให้ใกล้เคียงกับของเดิมมากที่สุด ก็คือบุคลิกของตัวละคร คาแร็คเตอร์ บทพูด สิ่งเหล่านี้คือหัวใจหลักของบทประพันธ์
ซึ่งไม่ควรแก้ไขดัดแปลงจนไม่เหลือเค้าเดิม แต่ก็เป็นเพียงทัศนะของส่วนตัวนะคะ
ได้ทันดูละครเวอร์ชั่นเดิมที่ตัวเองเคยเล่นบ้างหรือไม่
ไม่เคยเล่นละครรีเมคที่ตัวเองได้ทันดูต้นฉบับเลยค่ะ (หัวเราะ) หมายถึง อาจจะยังเด็กเกินไปจำไม่ได้ หรือไม่ได้ดูทางโทรทัศน์ในช่วงที่ละครเวอร์ชั่นนั้นออกอากาศ แต่สิ่งที่ต้องทำเสมอเมื่อรับเล่นละครรีเมคคือ เราจะต้องไปหาดูย้อนหลังจาก Youtube หรือ source ใดๆ ก็ตามเท่าที่จะหาได้ ซึ่งโลกไซเบอร์ปัจจุบันจะหาละครเก่าๆ ดูก็เป็นอะไรที่สะดวกสบายขึ้นมากค่ะ
ชอบหรืออยากเล่นละครรีเมคเรื่องใดมากที่สุด
ต้องบอกตรงๆ ว่า ไม่เคยย้อนดูแบบจบทั้งเรื่องเลยค่ะ (หัวเราะ) ถ้าดูใน Youtube เราสามารถเลือกตอนได้ ส่วนมากก็จะเลือกดูคาแร็คเตอร์ของตัวละครที่เราเล่น เรียกว่าดูเพื่อนำมาปรับใช้กับการทำงานเป็นหลักค่ะ แต่ถ้าถามว่าชอบหรืออยากเล่นละครรีเมคเรื่องไหนมากที่สุด อืมม... ต้องขอตอบว่าชอบหลายๆ เรื่อง แต่ไม่กล้าระบุเจาะจงไปว่าอยากเล่นเรื่องไหนเป็นพิเศษ ให้เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องเป็นผู้เลือกดีกว่าค่ะ ส่วนหนึ่งมาจากมี่ไม่ค่อยมีเวลาดูละครทางโทรทัศน์ เลยไม่ค่อยอินหรือฝังใจกับเรื่องไหนเป็นพิเศษ เวลาดูใน Youtube ก็ดูบท ดูคาแร็คเตอร์ เพื่อเอามาใช้ในการทำงานมากกว่าน่ะค่ะ อีกอย่างหนึ่งคือละครสมัยนี้รีเมคกันค่อนข้างเร็ว 4-5 ปีก็นำกลับมาสร้างใหม่แล้ว นานๆ ทีจะมีบางเรื่องที่ทิ้งระยะเวลายาวนานเป็น 10 ปีแล้วจึงได้กลับมาสร้างใหม่ ยิ่งละครเก่าๆ แบบนั้น มี่ก็ไม่ทันได้ดู เลยอาจจะไม่อินมากเหมือนคนที่ทันได้ดูจากทางโทรทัศน์
การเลือกซื้อ สะสม และการดูแลรักษา
ตอนนี้ไม่มีของสะสมอะไรเลยค่ะ ไม่รู้สึกหลงใหลหรืออยากสะสมอะไรเป็นพิเศษ แต่ก่อนหน้านี้ก็เคยมีอยู่บ้างแบบไม่รู้ตัว คือเป็นคนชอบซื้อแหวน ใส่แหวนเกือบจะครบทุกนิ้ว (หัวเราะ) เจอแหวนที่ไหนก็ชอบซื้อมาเก็บไว้ แต่ตอนนี้ขี้เกียจเก็บแล้ว บางวงไม่ค่อยได้ใช้ยังให้คนอื่นไปด้วยซ้ำ (หัวเราะ) ส่วนของใข้เช่นกระเป๋า ถ้าจะซื้อจริงๆ มี่เลือกซื้อแบรนด์เนมไปเลยทีเดียว ซื้อแล้วใช้ไปยาวๆ ไม่เปลี่ยนบ่อย หรือพูดง่ายๆ คือตัดสินใจเลือกซื้อแล้วจะไม่เปลี่ยนเลยจนกว่าจะพัง นั่นก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เรากล้าตัดสินใจซื้อของแพง มันเหมือนเป็นการลงทุนในระยะยาวได้ ซื้อแบรนด์คุณภาพดีๆ ราคาสูง แต่สามารถใช้อย่างคุ้มค่าไม่ต้องซื้อบ่อยๆ ปัจจัยสำคัญก็คือเราต้องดูแลรักษาของให้ดีค่ะ กระเป๋าแบรนด์พอมีอยู่บ้าง 1-2 ใบ ซึ่งซื้อด้วยเงินจากการทำงานของเราเอง ด้วยความที่มันมีราคาสูงมาก ทำให้เราค่อนข้างทะนุถนอมรักษา ใช้งานอย่างระมัดระวัง คือใช้เฉพาะในโอกาสที่ต้องใช้จริงๆ เช่นออกงานกลางคืน งานที่เป็นทางการ แต่ถ้าในชีวิตประจำวันจริงๆ... ใช้ถุงผ้าค่ะ
สิ่งใดที่อยาก rewind กลับไป
คิดว่าน่าจะเป็นอากาศน่ะค่ะ ง่ายๆ เลยคืออากาศทุกวันนี้มันร้อนเกินไปจริงๆ ย้อนกลับไป 2-3 ปีก่อน อากาศในกรุงเทพฯ ยังไม่ร้อนขนาดนี้ แม้จะเป็นช่วงกลางฤดูร้อนก็ตาม แต่เดี๋ยวนี้ร้อนไปหมดทุกฤดู และร้อนขึ้นทุกๆ วัน สมัยก่อนจะออกไปข้างนอกยังไม่รู้สึกว่ามันทรมาน แต่เดี๋ยวนี้ออกไปข้างนอกทีไรรู้สึกเหมือนทรมานตัวเอง (หัวเราะ)
การ resolve, restore, repair ของคนวงการบันเทิง
ด้วยอาชีพที่เราทำอยู่มันต้องใช้ภาพลักษณ์ที่เผยแพร่ต่อสาธารณะชน มี่จึงคิดว่าการบำรุงรักษาความสวยความงาม การทำทรีทเม้นท์ เข้าคอร์ส ตลอดไปจนถึงการศัลยกรรม มันเป็นความจำเป็นประการหนึ่งที่อาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ค่ะ มี่ถือว่ากระบวนการต่างๆ เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลตัวเอง และการดูแลตัวเองก็คือปัจจัยหนึ่งของอาชีพเรา แต่ในส่วนตัวของมี่เอง ไม่ถึงขั้นว่าเราต้องไปศัลยกรรมผ่าตัดเพื่อเพิ่มหรือลบส่วนไหนออกไป มี่จะเน้นไปที่การฟื้นฟูมากกว่าเปลี่ยนแปลงค่ะ คือการใช้ครีม ยา หรือเครื่องเลเซอร์ในการฟื้นฟูผิวพรรณ ยอมรับเลยค่ะว่ามี่เป็นนักแสดงคนหนึ่งที่ทำเรื่องพวกนี้ค่อนข้างบ่อย ส่วนมากจะเป็นการทำทรีทเม้นท์ หรือต่อให้เราไม่ได้เป็นนักแสดง แต่ด้วยความที่เราเป็นผู้หญิงมีความรักสวยรักงาม สิ่งเหล่านี้ก็เป็นเรื่องค่อนข้างจำเป็นอยู่ดี
เมื่อไหร่ที่ควร restore ตัวเอง
เราไม่ควรรอให้ผิวมันพังก่อนแล้วค่อยไปทำ มี่คิดแบบนั้น เพราะแบบนั้นมันจะเป็นกระบวนการที่ยุ่งยากเหมือนอะไรที่พังแล้วมันจะซ่อมยาก มี่ว่ามีโอกาสเมื่อไหร่ก็ควรจะทำเลยเพื่อเป็นการป้องกัน อาจจะเริ่มจากการซื้อครีมบำรุงมาทางที่บ้านก่อนก็ได้ค่ะ จริงๆ เมื่อก่อนเราก็ไม่ได้เป็นคนชอบทำโน่นนี่เกี่ยวการบำรุงผิวพรรณความงามอะไรแบบนี้นะคะ แต่ด้วยความที่เราทำงานอยู่ในวงการบันเทิง การดูแลรักษา บำรุง ฟื้นฟู ความสวยงามโดยเฉพาะผิวพรรณจึงกลายเป็นเรื่องจำเป็นในชีวิต พูดได้เลยว่าเป็นสิ่งที่เราต้องทำทุกสัปดาห์ หมายถึงเข้าไปรับบริการที่คลีนิคหรือสถานเสริมความงามนะคะ ซึ่งก็ไม่ได้ไปทำอะไรมาก แค่ทำทรีทเมนท์ ใช้วิตามินผลัดเซลส์ผิว ประมาณนั้น ส่วนการดูแลพื้นฐานเช่นหาครีมมาทาผิวอะไรแบบนี้เป็นเรื่องจำเป็นของผู้หญิงที่ต้องทำทุกวันอยู่แล้ว
มุมมองต่อศัลยกรรมความงาม
มี่มองว่ามันอยู่ที่ความพอใจของแต่ละคนค่ะ บางคนอยากจะเพิ่ม บางคนอยากจะตัดออก (หัวเราะ) แต่ในส่วนตัวของมี่ ปัญหาคือมี่เป็นคนหน้าสั้นแต่มีแก้ม ซึ่งวิธีแก้ไขมันไม่ถึงขั้นจำเป็นต้องศัลยกรรม มันมีวิธีที่ง่ายกว่านั้นเช่น ออกกำลังกาย เพื่อลดไขมันที่แก้ม ให้หน้าผอมเรียวลง หรืออย่างเช่นมี่เป็นคนจมูกโด่งอยู่แล้ว หลายคนชอบบอกว่ามี่ไปทำจมูกมาซึ่งจริงๆ แล้วไม่ได้ทำเลย (หัวเราะ) ถือว่ามี่โชคดีที่เกิดมาจมูกโด่งอยู่แล้ว ซึ่งถ้ามองในมุมกลับกันถ้าจมูกเราไม่เข้ากับโครงหน้า หรือทำแล้วจะดูดีขึ้น มี่ก็ไม่ปฏิเสธว่าคงจะไปทำค่ะ เพราะเราไม่ได้ต่อต้านสิ่งเหล่านี้ มี่ไม่เคยแอนตี้การผ่าตัดศัลยกรรม ใครๆ ก็ทำกันเป็นเรื่องปกติ ทั้งผู้หญิงผู้ชาย มันเป็นสิทธิส่วนตัวของแต่ละบุคคลที่จะทำอะไรก็ตามเพื่อให้ตัวเองดูดีขึ้นไม่ใช่เรื่องผิดเลยค่ะ
23 ธ.ค. 2562
5 ต.ค. 2563
27 ต.ค. 2561