Last updated: 4 พ.ย. 2562 | 2464 จำนวนผู้เข้าชม |
อีกครั้งที่ FOC ได้ถูกรับเชิญเข้าร่วมกับคณะสื่อมวลชนสายยานยนต์ชั้นนำ ไดร์ฟวิ่งกับอีเว้นท์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ Mercedes-Benz TH เคยจัดมากับธีมงาน "Mercedes-AMG Driving experience 2018 " โดยในปีนี้จัดหนักกว่าเคยและยิ่งใหญ่กว่าที่เคยมีมา พร้อมกับเปิดตัวรถยนต์ใหม่อีก 3 รุ่นในงาน คือ New C43 AMG 4MATIC coupe โฉม Facelift คันต่อมา New C200 AMG coupe และตบท้ายด้วยของแรง E63s 4 MATIC
ประสบการณ์ขับตระกูล AMG ที่ขนมาให้ลองครบทุกรุ่นในครั้งนี้ ทำให้ผมสามารถจับความแตกต่างตามคาร์แร็กเตอร์ของแต่ละรุ่นได้ชัดเจนมากๆ เพราะได้ลองขับแล้วเปลี่ยนคันทันทีในเวลาที่ไม่ทิ้งห่างมากนัก โดยเฉพาะได้ลองขับในสนามช้างด้วยยิ่งทำให้ตัวรถแสดงอาการต่างๆออกมาชัดเจน
เริ่มจาก C43 AMG ตัวใหม่ ให้อารมณ์การขับขี่ที่มันส์ เร้าใจ อัตราเร่งทำได้ดีกว่าตัวเก่าอีกนิด จากเครื่องยนต์บล๊อก V6 3.0 ลิตร แบบ Biturbo บล๊อกเดิมแต่ถูกปรับแต่งใหม่ ทำให้มีม้าเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 390 hp แรงกว่าเดิม 28 hp แต่แรงบิดเท่าเดิมที่ 520 Nm ส่งกำลังตัวเกียร์ 9G-TRONIC ให้อัตรเร่ง 0-100 4.7 วิ
บอกตามตรง จากที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยผมบอกความแตกต่างเรื่องความแรงที่เพิ่มขึ้นอีก 28 แรงม้าได้ไม่ชัดนัก คือ C43 มันพุ่งทยานได้ดุดันหนักแน่น ไม่ต่างมากนักเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน แต่สิ่งที่สัมผัสได้คือช่วงล่างที่ให้ปรับได้ 3 สเต็ป มาเป็นออฟชั่นจากโรงงานเลยเห็นได้ชัดว่าถ้าอยู่ในโหมด Camfort แล้วมันขับได้นุ่มนวลเอาใจคนนั่งข้างได้ดีเลยหละ แต่รอบที่คณะสื่อมวลชนเล่นกันหนักๆ ผมเลือกปรับให้มันแข็งสุดที่โหมด Sport+ พฤติกรรมมันเปลี่ยนจากนุ่มหนึบมาแข็งกว่าเดิมชัดเจน ให้การยึดเกาะถนนมากๆ มี Mechanical Grip สูง น่าประทับใจมากๆ โดยเฉพาะโค้ง 9 ของสนามที่เป็นโค้งปลายปิด ต้องเลี้ยงพวงมาลัยเข้าโค้งขวา พยายามให้ล้อหน้าขวาไต่ชิดขอบ Apex ให้มากที่สุดก่อนเตรียมหักซ้ายเข้าโค้ง 10 ช่วงนั้นถือเป็นการทดสอบช่วงล่าง บาล๊านซ์ ระบบบังคับเลี้ยวของมันได้เป็นอย่างดี และ C43 ก็สอบผ่านฉลุย พริ้วไหวในทุกโค้ง ช่วงล่างให้ความยึดติดเกาะถนนมาก ผสานกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่เกาะหนึบ ทำให้ผมมั่นใจในทุกโค้งมากกว่ารถขับเคลื่อนล้อหลัง แต่อย่างที่หลายคนมองว่าขับ 4 จะสนุกหรือ? ตอบได้เลยว่า "มาก" ไม่แพ้ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง เพราะระบบขับเคลื่อน 4 ล้อในตัว C43 จะส่งกำลังขับไปที่ล้อหลังมากกว่าในกรณีที่เหมาะสม บวกกับถ้าอยู่ในโหมด Sport+ C43 จะโชว์เหนือให้เห็นว่ารถขับ 4 ก็ขับได้มันสะใจมาก
มาลองขับ C200 AMG coupe กันบ้าง บอกตามตรงพอได้ขับ C43 แล้วลงมาขับ C200 อารมณ์เปลี่ยนไปเยอะเลย เพราะมันแรงต่างกันมากแบบหนังคนละม้วนแต่ก็ไม่ถือว่า C200 ใหม่ จะอืดอาดยืดยาด เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบพ่วง EQ Boost (มอเตอร์ไฟฟ้าขนาดจิ๋ว) ให้กำลังสูงสุด 184 hp แรงบิดสูงสุด 280 Nm ส่งกำลังด้วยเกียร์ 9G-TRONIC ให้อัตรเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.9 วินาที เรียกได้ว่าขับได้ลื่นไหล ให้อารมณ์กระฉับกระเฉง ไม่ถึงกับแรงแต่ขับสนุก ช่วงล่างเอาอยู่เลยไม่นุ่มยวบยาบ เพราะมีหลายโค้งที่ C200 coupe แสดงศักยภาพออกมา ว่ามันมี DNA จากสายพันธุ์ AMG อยู่ไม่ใช่น้อย ระบบเบรกมั่นใจได้เต็มร้อย เบรกได้ดีให้กำลังเบรกที่เหมาะสมกับแรงม้า เอาอยู่แม้ผมจะเบรกหนักๆหลายรอบก็ตาม ถือว่าสอบผ่านในสนามที่หินที่สุดสนามหนึ่งของเมืองไทย
น่าเสียดายที่โชคไม่ดีพอที่จะได้ลองขับ 2 ดวงดาว ที่อยู่สูงที่สุดในวันนั้น E63s และ GT-C สุดโหดและสุดหล่อที่สุดในงาน เพราะทาง Staffs ใช้วิธีจับฉลากหาผู้โชคดีที่จะได้ขับ แต่ไม่เป็นไร เพราะช่วงสายของวันผมยังได้สนุกกับ CLA 45 AMG 4 MATIC น้องเล็กสุดท้องตระกูล AMG แต่ขอโทษ เห็นว่าเป็นน้องเล็กแต่ของน้องเค้าไม่เล็กนะคร้าบ และก็เป็นอันที่ผมลงมติเลยว่าขับได้มันส์ที่สุดในวันนั้นเลย! (ยังไม่นับ A45 AMG ที่ต้องมันส์กว่าแน่นอน) ความแตกต่างของ CLA 45 เมื่อเทียบตระกูล AMG คันอื่นๆจุดแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือ เรื่องน้ำหนัก ทันทีที่ขับไปตามผิวแทร็กมันให้การตอบสนองที่ว่องไว ปราดเปรี่ยว หักซ้ายไปซ้าย หักขวาไปขวาในทันทีที่ไม่มีเฉื่อยเลย เชื่อว่าหนึ่งสาเหตุ คือ น้ำหนักเครื่องยนต์ที่เบากว่าของรุ่นที่ใช้เครื่อง V6 Bi-TURBO น้ำหนักพวงมาลัยเบากว่า C43 ชัดเจนแต่เป็นพวงมาลัยน้ำหนักเบาที่คมกริบ แม่นยำ แต่เสียตรงให้อารมณ์สื่อสารส่งผ่านมือได้ไม่ดีมากเท่าไหร่ แต่บังคับควบคุมได้แม่นยำถือว่าสอบผ่าน การตอบสนองของคันเร่งที่อาจจะไม่ละเอียดละเมียดเท่า C43 แต่มันเหมาะมากเวลาขับในสนามแข่ง เพราะคุณไม่จำเป็นต้องประณีประนอมน้ำหนักคันเร่งเหมือนตอนขับบนถนน ที่ต้องคอยประคองเลี้ยงคันเร่งเบาๆเวลาเคลื่อนตัวไปตามจราจรที่รถติดๆ และที่ผมชอบมากคือเกียร์คลัตช์คู่ที่เปลี่ยนเกียร์ได้เร็วมาก มันส์สะใจ ตอบสนองได้ตามนิ้วที่กระดิกเปลี่ยนเกียร์ที่แป้น Paddle shift แม้อาจจะมีดีเลย์บ้างเวลาเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำก็ตาม การตอบสนองของเครื่องยนต์บล๊อกเล็กทรงพลังบล๊อกนี้ บอกเลยว่ามันพร้อมจะท้าต่อยข้ามรุ่น อาการเทอร์โบแล็กมีน้อยมากมันตอบสนองความแรงได้ตามสั่ง แถมเสียงแผดคำรามมันลั่นสนั่นร้อนแรงเกินบรรยาย อาการเข้าโค้งออกโค้งเกาะจิกหนึบเป็นตีนตุ๊กแก ให้ความมั่นใจปราบได้ทุกโค้งของสนามช้าง เสียงกรีดร้องของเครื่องยนต์ 4 สูบเทอร์โบ 2.0 ลิตร บล๊อกนี้มันชวนให้ผมไม่อยากถอนคันเร่ง อยากจะกดแช่ยาวๆ
ลากรอบให้มันไส้แตกกันไปข้างเลยละ CLA 45 AMG อาจทำตัวไม่ดีนักเวลาขับใช้งานตามถนน เพราะมันแสดงความหยาบออกมาชัดเจนเลี้ยงคันเร่งให้สมูทได้ยาก แตะทีจะพุ่งกระโจนท่าเดี่ยว ช่วงล่างแข็งกระด้างชัดเจนไม่ดัดจริตทำตัวเป็นคน 2 บุคคลิกเหมือนอย่างพี่ชาย C43 แต่ถ้าจับมันมาออกกำลังในสนามแข่งแล้วละก็ รุ่นใหญ่ก็รุ่นใหญ่เถอะมันพร้อมท้ารบได้สบาย!
จบกันไปกับไดร์ฟวิ่งอีเว้นท์ที่ต้องขอปรบมือดังๆให้กับงานดีๆแบบนี้ ต้องขอขอบคุณ Mercedes - Benz TH ที่ไม่ลืมกัน และพบกันใหม่ในปีหน้า สวัสดีสาวกดวงดาวทั้งหลาย!