Last updated: 4 พ.ย. 2562 | 1935 จำนวนผู้เข้าชม |
โรลส์-รอยซ์เปิดตัวรถยนต์เอสยูวีที่หรูหราที่สุดในประเทศไทย ณ งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 หรือ The 35th Thailand International Motor Expo ในปีนี้ ด้วยเป้าหมายกลุ่มลูกค้าชาวไทยอายุน้อยที่มีรายได้สูง คัลลิแนนสามารถให้ความสะดวกสบายได้ทุกที่ ไม่ว่าจะอยู่บนถนนในกรุงเทพฯ เส้นทางที่ท้าทายในเชียงใหม่ หรือเดินทางไปรอยัล ภูเก็ต มารีน่า คัลลิแนนพร้อมจะพากลุ่มลูกค้าผู้กระหายการผจญภัย เดินทางไปพิชิตสุดขอบโลกด้วยความหรูหราเหนือระดับ
มร. เอียน แกรนท์ ผู้จัดการฝ่ายขาย สำหรับองค์กรธุรกิจทั่วโลก ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ได้ให้ความเห็นในการเปิดตัวนี้ว่า “คัลลิแนน น่าจะเป็นยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ที่ถูกตั้งตาคอยมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่รถยนต์ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อหรือ AWD (all-wheel drive) ประเภทยกตัวถังสูงได้รับความนิยมเนื่องจากประโยชน์ใช้สอยของรถ และตอนนี้ลูกค้าของโรลส์-รอยซ์ก็สามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ที่สามารถขับสบายไปได้ทุกที่ด้วยความหรูหราและมีสไตล์ถึงขีดสุดแล้ว นอกจากนี้ โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนนทุกคัน ยังเป็นรถยนต์สั่งผลิตพิเศษ ที่ใช้นวัตกรรมอันเป็นกรรมสิทธิ์ของแบรนด์ อย่าง ‘สถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา’ (Architecture of Luxury) ที่มอบระดับของสมรรถนะ ความสบาย และความประณีตที่เหนือกว่าให้แก่รถ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในตลาดรถยนต์เอสยูวี”
นายสุนทรพันธ์ เดชะเทศ ผู้จัดการทั่วไป โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก กล่าวว่า “คัลลิแนน คือโรลส์-รอยซ์แห่งตลาดรถอเนกประสงค์เอสยูวี และจะกลายเป็นยนตรกรรมระดับสูงสุดของตลาดรถยนต์ประเภทนี้ในประเทศไทย ซึ่งยานยนต์ที่แสนพิเศษคันนี้ จะนำพาลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ให้คุณค่ากับกับเดินทางและอิสรภาพในการท่องเที่ยว ได้ลองมาสัมผัสโรลส์-รอยซ์ โดยคัลลิแนนตั้งเป้าดึงดูดกลุ่มลูกค้ารายได้สูงที่มีครอบครัว หรือคู่รักที่มีไลฟ์สไตล์แบบแอคทีฟและชอบกิจกรรมกลางแจ้ง”
พลังและภาพลักษณ์
ในการรังสรรค์รถยนต์โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน ทีมออกแบบได้ทำงานเพื่อตอบสนองต่อความคาดหวังของเจ้าของรถยนต์โรลส์-รอยซ์ ที่ต้องการทั้งการออกแบบที่โดดเด่น สัดส่วนอันเป็นเอกลักษณ์ของโรลส์-รอยซ์ที่ปรากฏทั้งภายในและภายนอกตัวรถ พร้อมกับความหรูหราสง่างามที่ไร้ข้อจำกัด คอนเซ็ปท์ในการออกแบบครั้งนี้ คือการสร้างโครงหลังคารถที่ไม่เหมือนใคร ราวกับท่าทางอันทรงอำนาจของนักรบ สื่อถึงความแข็งแกร่งและพละกำลัง โดยในขณะเดียวกันก็ทำให้การก้าวเข้าออกห้องผู้โดยสารด้านหลังเป็นไปได้อย่างสะดวกสบาย
องค์ประกอบหลักอื่นๆ เช่น ไฟรถและกระจังหน้านั้น ถูกจัดวางไว้อย่างกลมกลืนไปกับด้านนอกของตัวรถ ในขณะที่เส้นอันคมชัดทั้งในแนวตั้งและแนวราบสร้างภาพลักษณ์ที่ดูทรงพลัง ประกอบกับคิ้วของนักรบที่มีความมุ่งมั่น ซึ่งเกิดจากลายเส้นเฉียบคมพาดผ่านบนโครงกระจังหน้ารถและไฟเดย์ไลท์ (Daytime Running Lights) การออกแบบทั้งหมดนี้ส่งให้ส่วนหน้าของรถยนต์คัลลิแนนดูมีความแข็งแกร่งทนทาน
จากด้านข้าง วัตถุประสงค์หลักของรถยนต์คัลลิแนนถูกสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนผ่านโครงร่างของฝากระโปรงรถยนต์ที่มีความยาวตามแบบฉบับของโรลส์-รอยซ์ ซึ่งตำแหน่งของฝากระโปรงรถถูกออกแบบให้อยู่สูงกว่าปีกของรถ เพื่อสื่อถึงความแข็งแรง
คัลลิแนน เป็นรถยนต์ประเภทยกตัวถังสูง ที่มีความสูง 1,836 มิลลิเมตร โดยความสูงนี้ จะเห็นได้ชัดยิ่งขึ้นจากสัดส่วนของกระจกต่อโลหะเมื่อมองจากด้านข้าง จากบริเวณเหนือเสา B (B-pillar) ไปเล็กน้อย แนวหลังคารถจะเริ่มพุ่งและลาดลงสู่กระจกหลัง มาบรรจบกับฝากระโปรงท้ายที่โค้งยื่นออกมารับกันอย่างลงตัว และทำให้หวนคิดถึงโรลส์-รอยซ์ ดีแบ็ค (D-Back) ในช่วงปีค.ศ. 1930 หนึ่งในรถยนต์ไม่กี่รุ่นสุดท้ายของแบรนด์ที่ยังคงมีชั้นเก็บสัมภาระภายนอกตัวรถ ดุมล้อขนาด 22 นิ้วสร้างความสมดุลที่สวยงามให้แก่คัลลิแนน ในขณะที่ความลุ่มลึกของมุมมองด้านข้างของตัวรถ เกิดจากโลหะแท้ ดังเช่นหอกของนักรบชาวแซกซอน ที่อยู่เหนือขอบด้านล่างประตูรถ สร้างมิติและความน่าเกรงขามให้กับด้านข้างของรถได้อย่างงดงามสำหรับด้านหลัง แนวทางในการออกแบบไฟหลังยังคงไว้ซึ่งความเรียบง่าย ด้วยช่องขนาดกะทัดรัด 2 ช่อง ซึ่งเป็นที่ตั้งของไฟหลังทั้งหมด และตรงกลางยังถูกตกแต่งอีกเล็กน้อยด้วยแถบอัญมณี จุดสุดท้ายที่สะท้อนถึงฟังก์ชันในการใช้งาน คือท่อไอเสียโลหะและแผ่นกันกระแทก (skid plate) ซึ่งสะท้อนถึงพลังและศักยภาพของคัลลิแนน การออกแบบที่คำนึงถึงประโยชน์ใช้งานจริง
สีแดงแมกมา (Magma) อันสดใสภายนอกตัวรถของคัลลิแนน ซึ่งถูกจัดแสดงครั้งแรกในไทยนี้ มีจุดมุ่งหมายในการสร้างคาแรคเตอร์ของความสนุกสนานและใช้งานได้จริงให้กับยนตรกรรมรุ่นใหม่นี้ คัลลิแนนมาพร้อมกับตัวเลือกเบาะนั่งยาวแบบเลานจ์ด้านหลัง ซึ่งเป็นตัวเลือกที่เน้นประโยชน์ใช้สอยมากกว่า ด้วยพื้นที่สำหรับผู้โดยสาร 3 คนด้านหลัง ตัวเลือกนี้จึงเหมาะกับครอบครัวชาวไทย นอกจากนั้นเบาะหลังยังสามารถพับด้วยไฟฟ้าได้ทั้งหมดเพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระ หรือพับลงแบบ 2/3 หรือ 1/3 ตามความต้องการและความเหมาะสมในการใช้งาน แม้จะมีสัมภาระ ผู้โดยสารด้านหลังยังคงสามารถเดินทางได้อย่างสบาย หรือจะใช้พื้นที่ด้านหลังเบาะเป็นโต๊ะชั่วคราวในการวางข้าวของมีค่าส่วนตัวก็ได้
ส่วนด้านหลัง หรือท้ายรถ มอบพื้นที่ขนาดความจุมาตรฐาน 560 ลิตร และเพิ่มขึ้นถึง 600 ลิตรเมื่อถอดถาดวางของด้านหลัง (parcel shelf) ออก หากพับเก็บเบาะนั่งด้านหลังทั้งหมด คัลลิแนนจะมีพื้นที่บรรทุกสัมภาระยาวถึง 2,245 มิลลิเมตร และพื้นที่ความจุ 1,930 ลิตร นับเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่มีพื้นที่บรรทุกสัมภาระใหญ่ที่สุดในตลาดรถยนต์ลักซ์ชัวรีเอสยูวี
การปรับแต่งเพื่อความหรูหราขั้นสุด
ภายในรถยนต์คัลลิแนนแบบ 4 ที่นั่ง ห้องโดยสารด้านหลังถูกติดตั้งด้วยเบาะนั่งแบบแยก นับเป็นความหรูหราระดับสูงสุดในตลาดรถยนต์เอสยูวี ซึ่งเบาะนั่งด้านหลังแบบแยกทั้งสองจะถูกกั้นด้วยคอนโซลกลางที่มีพื้นที่สำหรับเครื่องดื่ม แก้ววิสกี้ ขวดวิสกี้ แก้วแชมเปญ และตู้เย็น ส่วนเบาะนั่งสามารถปรับได้หลายระดับเพื่อความสบายและผ่อนคลายสูงสุดแก่ผู้โดยสารด้านหลัง ความมีรสนิยมในแฟชั่นถูกถ่ายทอดอย่างชัดเจนภายในห้องโดยสาร ผ่านส่วนบนของแผงคอนโซลหน้ารถที่ถูกตกแต่งด้วยหนัง ‘Box Grain’ สีดำที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นวัสดุหนังที่ทนทานและกันน้ำ แบบเดียวกับหนังที่ถูกใช้ในการทำกระเป๋าเดินทางและกระเป๋าถือแบรนด์ไฮเอนของอิตาลีในขณะเดียวกัน เบาะนั่งของคัลลิแนนมีลักษณะที่เด่นชัดและให้ความรู้สึกมาดมั่น แสดงถึงคุณภาพและความเชี่ยวชาญของโรลส์-รอยซ์ ด้วยการออกแบบให้เหมาะสมกับความสบายและเปี่ยมไปด้วยพลังของรถยนต์คัลลิแนน เบาะนั่งถูกตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่ทันสมัยด้วยลายเส้นรูปทรงเกือกม้า เน้นย้ำถึงความสบายในส่วนโค้งเว้าของที่นั่ง นอกจากนั้น เบาะรุ่นใหม่นี้ยังสะท้อนถึงฝีมือด้านเครื่องหนังของแบรนด์ โดยพนักพิงทั้งแผงถูกหุ้มด้วยหนังเพียงชิ้นเดียว และนำมาขึ้นรูปให้มีพื้นผิวแบบสามมิติ แผงกั้นกระจกอันมีเอกลักษณ์แบ่งแยกห้องโดยสารออกจากส่วนบรรทุกสัมภาระ ช่วยลดระดับเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารรถยนต์เอสยูวีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกัน ก็ช่วยป้องกันผู้โดยสารในรถยนต์คัลลิแนนจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ แม้ตอนที่ประตูส่วนบรรทุกสัมภาระด้านหลังถูกเปิดออก
เทคโนโลยีล้ำสมัย
คัลลิแนน เป็นรถยนต์เอสยูวีที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สุดในโลก เมื่อถูกสั่งจากกุญแจที่สั่งทำพิเศษ ตัวรถจะลดระดับความสูงลง 40 มิลลิเมตร เพื่อให้การเข้าไปในห้องโดยสารเป็นไปอย่างสะดวกสบาย ผ่านประตูรถระบบไฟฟ้าที่มีมือจับระบบสัมผัส เปิดกว้างต้อนรับผู้โดยสารสู่ภายในตัวรถคัลลิแนนที่มีหลังคาเป็นกระจกแบบพาโนรามา พร้อมด้วยระบบเสียงสั่งผลิต 18 ช่อง 18 ลำโพงเกรดสตูดิโอ เบาะนั่งระบายอากาศพร้อมระบบนวด รวมไปถึงโต๊ะปิคนิคอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของโรลส์-รอยซ์ ที่ตอกย้ำถึงความหรูหราภายในตัวรถ ผู้โดยสารคัลลิแนนสามารถชาร์จเครื่องมือและอุปกรณ์สื่อสารได้ตลอดเวลาด้วยพอร์ต USB ถึง 5 ช่องที่ถูกติดตั้งอย่างมีชั้นเชิงในห้องโดยสาร ในขณะเดียวกัน โทรศัพท์มือถือยังสามารถถูกชาร์จแบบไร้สายได้ในส่วนหน้าของห้องโดยสาร สำหรับผู้ขับขี่ แผงคอนโซลหลักเป็นที่ตั้งของปุ่มควบคุมที่มีตราสัญลักษณ์สปิริต ออฟ เอ็กสตาซี, ปุ่ม ‘ออฟโรด’, ปุ่มควบคุมการลงเนิน (Hill Descent Control) และระบบช่วงล่างที่ปรับความสูงได้ (Air Suspension Height Adjustment) นอกจากนั้น คัลลิแนนยังมีระบบความปลอดภัยที่หาที่เปรียบไม่ได้ เช่น ไนท์วิชันและวิชันแอสซิสท์ (Night Vision and Vision Assist) ที่รวมไปถึงการแจ้งเตือนสัตว์ป่าและคนเดินเท้าทั้งกลางวันและกลางคืน; ผู้ช่วยความตื่นตัว (Alertness Assistant) ระบบกล้อง 4 ตัว ที่ให้ทัศนวิสัยและมุมมองแบบรอบทิศทาง รวมไปถึงภาพมุมสูง; ระบบควบคุมแอคทีฟ ครูซ (Active Cruise Control); แจ้งเตือนการปะทะ (Collision Warning); แจ้งเตือนการจราจรโดยรอบ (Cross-Traffic Warning); แจ้งเตือนการเปลี่ยนช่องทางเดินรถ (Lane Departure and Lane Change Warning); จอแสดงข้อมูลบนกระจกหน้าความละเอียดสูงขนาด 7x3; WiFi และระบบนำทางและระบบเครื่องเสียงรุ่นล่าสุด
วิศวกรรมอันไร้ที่ติ
เราจะสามารถสร้างรถยนต์เอสยูวีให้เป็นผลงานชิ้นเอกทางวิศวกรรมได้อย่างไร ประการแรก คัลลิแนนถูกสร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่ใช้โครงอลูมิเนียมทั้งหมด อันเป็นกรรมสิทธิ์ของโรลส์-รอยซ์ เรียกว่า ‘สถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา’ (Architecture of Luxury) ที่มอบความแข็งแกร่งให้ตัวรถอย่างน่าอัศจรรย์ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในระดับที่ดีที่สุดเมื่อขับขี่บนทางที่สมบุกสมบัน โดยในขณะเดียวกันก็มอบสัมผัสของ ‘การขับเคลื่อนแบบพรมวิเศษ’ (Magic Carpet Ride) ที่มีชื่อเสียงของโรลส์-รอยซ์ นอกจากนั้น ยังมีการเพิ่มระบบกันสะเทือน (Air suspension) 4 มุมรุ่นล่าสุด, ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีความซับซ้อน, ระบบบังคับเลี้ยวสี่ล้อ, เครื่องยนต์โรลส์-รอยซ์ทวินเทอร์โบ V12 ขนาด 6.75 ลิตรที่ปรับปรุงใหม่ (แรงบิด 850 นิวตันเมตรที่ 1,600 รอบต่อนาที) และเกียร์ 8 สปีดที่นุ่มนวลที่สุดในโลก สำหรับการขับขี่ออฟโรด เมื่อคัลลิแนนตรวจพบการสูญเสียการควบคุม โช้คอัพไฟฟ้าจะใช้ระบบอัดลมในการช่วยควบคุมล้อรถ เพื่อให้มั่นใจว่าล้อทุกล้อแตะพื้นอย่างสม่ำเสมอและแรงบิดถูกส่งไปที่ล้อทุกล้อได้มากที่สุด การขับสบาย...ไปทุกที่นั้น เริ่มต้นจากปุ่มตัวเลือกหนึ่งที่เป็นที่รู้จักกันภายในโรลส์-รอยซ์ ว่าเป็นตัวเลือก ‘ทุกที่ (Everywhere)’ นำเสนอโปรแกรมแตกต่างกัน 4 โปรแกรมให้เลือกสรรภายใต้โหมดการขับขี่ออฟโรด นอกจากนั้น ด้วยความสูงจากพื้นรถที่มากที่สุด คัลลิแนนยังมีความสามารถในการลุยน้ำได้ลึกที่สุดที่ 540 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับรถยนต์ซูเปอร์ลักซ์ชัวรีเอสยูวีคันอื่น แต่ไม่ว่าจะลุยออฟโรดแค่ไหน ผู้โดยสารของคัลลิแนนสามารถก้าวออกจากรถได้โดยไม่ต้องกังวลว่าขากางเกงจะเปื้อน เนื่องจากประตูบานหน้าและหลังถูกออกแบบมาให้ห่อหุ้มธรณีประตูของรถ ทำให้มั่นใจได้ว่าฝุ่นผงจะถูกกันให้อยู่แต่ภายนอกประตูรถเท่านั้น ซึ่งฟีเจอร์นี้บ่งบอกถึงความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ตามแบบฉบับของโรลส์-รอยซ์
ออกแบบชีวิต ด้วยไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย
การเดินทางไปยังสถานที่อันห่างไกล เป็นเพียงปฐมบทของการผจญภัยไปกับโรลส์-รอยซ์ คัลลิแนนเท่านั้น ความสนุกสนานอีกมากมายและความเพลินเพลินในรูปแบบของโมดูลสันทนาการของโรลส์-รอยซ์ยังรออยู่ ตัวอย่างเช่น: หลังจากเลือกการเดินทาง เจ้าของรถสามารถดาวน์โหลดโมดูลโดรนลงในคัลลิแนน เลือกโมดูลการแข่งโดรน (Drone Racing Module) จากตัวเลือกโมดูลสันทนาการอื่นๆ มากมาย ที่เจ้าของรถยนต์ได้มอบหมายให้โรลส์-รอยซ์ติดตั้งให้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านสันทนาการของเขาหรือเธอ ไม่ว่าจะเป็นการตกปลาแบบฟลายฟิชชิง การถ่ายรูป ปีนเขา เล่นสโนว์บอร์ด พาราเซลลิง ไคท์บอร์ดดิง การดิ่งพสุธาด้วย base jumping สไลด์บนภูเขาไฟ หรือแค่นั่งพักเพื่อดื่มด่ำชมวิวธรรมชาติ ทุกสิ่งสามารถเป็นไปได้ด้วยแผนก Rolls-Royce Bespoke Collective และโมดูลสันทนาการทุกอันสามารถเสียบและเชื่อมต่อเข้ากับรถยนต์คัลลิแนนได้อย่างง่ายดาย พร้อมลิ้นชักอัตโนมัติที่มีอุปกรณ์และส่วนประกอบเฉพาะตามความต้องการของผู้ขับขี่รถยนต์คัลลิแนนแต่ละคัน และเมื่อไหร่ที่เจ้าของรถต้องการ สิ่งเหล่านี้ก็พร้อมอยู่ตรงหน้าเสมอ
Rolls-Royce Motor Cars ในงาน Thailand International Motor Expo ครั้งที่ 35
ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2561 เวลา 16.40 น. คัลลิแนน จะถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่บูธของโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จึงขอเรียนเชิญสื่อมวลชนทุกท่านรับชมและเป็นสักขีพยานในการเผยโฉมยนตรกรรมรุ่นใหม่นี้ ได้ที่บูธของแบรนด์ โดยสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป
โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ ภายใต้การดำเนินงานโดยบริษัท มิลเลียนแนร์ ออโต้ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด
สมรรถนะในการขับขี่ออฟโรดของคัลลิแนน
คำอธิบายโหมดขับเคลื่อนสี่ล้อ หรือ AWD ของคัลลิแนน
โหมดการขับขี่ออฟโรดจะช่วยในการขับขี่ เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ยากต่อการควบคุมรถ โดยภายใต้โหมดขับขี่ออฟโรดจะมีโปรแกรมที่แตกต่างกันอีก 4 โปรแกรมให้เลือกผ่านจอแสดงข้อมูล ซึ่งส่วนที่เป็นผลมาจากการออกแบบพัฒนาทางวิศวกรรม ได้แก่ระบบ AWD, ระบบกันสะเทือนของรถ, ระแบบเบรก ABS (Anti-lock Brake System) และการตอบสนองของคันเร่ง (Throttle response) ความสูงจากพื้นรถ: 193 +/- 40 มม. (ระบบช่วงล่างแบบ Air Suspension)
รายละเอียดคัลลิแนนที่แสดงในงาน:
องค์ประกอบ: หลังคากระจกแบบพาโนรามา (Panorama Glass Roof), กระจกหลังทินท์สีเข้ม (Rear Privacy Glass), เก้าอี้นวดด้านหน้าและหลัง (Front and rear Massage Seats), ระบบความร้อนภายในรถยนต์ (Heated Interior Surrounds), เครื่องจูนโทรทัศน์ (Television tuner), เครื่องจูนวิทยุดิจิตอล (DAB Tuner), ระบบเสียง Rear Theatre, เครื่องเสียงสั่งผลิต (ระบบลำโพง 18 ตัว), เครื่องส่งสัญญาณ Wifi, ระบบไนท์วิชัน (Night Vision), เทคโนโลยีแสดงผลบนกระจกหน้ารถ (Head Up Display), วิวรอบทิศทาง (Surround View), ระบบควบคุม แอคทีฟ ครูซ (Active Cruise Control), ระบบช่วยจอด (Park Assistant), ระบบเบรกอัตโนมัติ (Park Distance Control), ระบบไฟสูงอัตโนมัติ (High Beam Assistance), ระบบตรวจวัดและแจ้งเตือนลมยาง (Tyre Pressure Monitor), ระบบเทเลเซอร์วิส (Teleservices), บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Connected Drive Services), และข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์ (Real Time Traffic Information)
ระบบความปลอดภัย: Dynamic Stability Control (DSC); Antilock Brake Systems (ABS); Cornering Brake Control (CBC); Automatic Stability Control (ASC); Dynamic Brake Control (DBC); Dynamic Stability Control (DSC); Dynamic Traction Control (DTC); Brake Standby; Limit Range Feedback (EPS); Wipe Dry-Function: Fading Assist; Drive-off Assistant; Automatic Hold; Yaw moment compensation/yaw-rate control; rear axle slip angle control (HSR); Performance Control (dynamic handling brake intervention; Cornering Traction Control (ARS); Dynamic Handling Total Drive Torque Intervention (DxE). Cross Traffic Warning; Collision Warning; Rear End Collision Warning; Active Guard; Lane Departure Warning.
ราคาในประเทศไทย: เริ่มต้นที่ 32.9 ล้านบาท
คัลลิแนนทุกคันเป็นยนตรกรรมสั่งผลิต ราคาของรถขึ้นอยู่กับรายละเอียดในการปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้า