โรลส์-รอยซ์ เตรียมเผยโฉมยนตรกรรมสั่งทำพิเศษเต็มรูปแบบ ที่งาน Geneva Motor Show 2019

Last updated: 4 พ.ย. 2562  |  1364 จำนวนผู้เข้าชม  | 

โรลส์-รอยซ์ เตรียมเผยโฉมยนตรกรรมสั่งทำพิเศษเต็มรูปแบบ  ที่งาน Geneva Motor Show 2019

Phantom Tranquility
สรรสร้างขึ้นเพื่อเหล่าบุคคลผู้ใฝ่ฝันถึงการท้าทายและเอาชนะสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ Phantom Tranquility เปรียบดังสิ่งตอกย้ำถึงจุดยืนและความโดดเด่นของแฟนธอม ในฐานะไอเท็มที่หายากและเป็นที่ต้องการมากที่สุดในวงการลักซ์ชัวรี ซึ่งยนตรกรรมคอลเลกชันนี้มีจำนวนจำกัดอยู่เพียงแค่ 25 คันทั่วโลก และมีให้เลือกทั้งรุ่นฐานล้อมาตรฐานและรุ่นฐานล้อยาว

สำหรับลูกค้าคนสำคัญผู้เป็นเจ้าของแฟนธอม การตระหนักถึงวิสัยทัศน์ของตนเองนี้ ได้นำพวกเขาไปสู่โอกาสในการมองเห็นโลกจากมุมที่น้อยคนนักจะมีโอกาสได้เห็น Phantom Tranquility คือถ้อยแถลงของวิสัยทัศน์ที่ก้าวข้ามขีดจำกัด ได้รับการตั้งชื่อและสร้างขึ้นจากความรู้สึกนิ่ง สงบเงียบที่ผู้ขับขี่จะได้รับจากยนตรกรรมคันนี้ แฟนธอมรุ่นพิเศษได้เลือกสรรแรงบัลดาลใจและสิ่งต่างๆ จากโลกที่เหนือเกินกว่าขอบเขตของความเป็นไปได้ได้อย่างงดงาม



ในส่วนของ Gallery บริเวณแผงคอนโซลด้านหน้าของ Phantom Tranquility นั้น เกิดจากการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากระบบรูรับแสงที่ถูกตั้งค่าด้วยรังสีเอ็กซ์ (X-Ray coded aperture masks) ซึ่งถูกใช้ในจรวดสกายลาร์กของสหราชอาณาจักร การแผ่รังสีพลังงานสูงได้ถูกส่งผ่านในลวดลายฉลุอันมีเอกลักษณ์ ก่อให้เกิดแสงเงาที่มีระเบียบแบบแผนบนพื้นผิวชั้นล่าง คุณสมบัติของแหล่งกำเนิดแสงและพลังงานนี้ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่ ด้วยการคำนวณทางคณิตศาสตร์จากเงาเหล่านี้ และนำมาใช้กับสแตนเลสที่มีคุณสมบัติสะท้อนแสง, ทองชุบ 24 กะรัต และอะลูนิเนียมเกรดที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบิน ธีมการสำรวจอวกาศยังถูกนำมาใช้อย่างมีเอกลักษณ์ในการออกแบบ ซึ่งเป็นครั้งแรกสำหรับโรลส์-รอยซ์ที่นำเอาชิ้นส่วนของอุกกาบาตมาหลอมรวมเข้ากับระบบควบคุมเสียง (Volume Controller) เสริมด้วยด้ามจับทองขัดเงา ที่เข้ากันกับพื้นผิวเคลือบทองของ Gallery ของรถยนต์คอลเลกชันนี้ เกิดเป็นรูปแบบการตกแต่งที่ไม่ซ้ำใคร การประยุกต์ใช้ที่น่าทึ่งของชิ้นส่วนอุกกาบาต Muonionalusta ซึ่งตกลงมาสู่พื้นโลกที่เมืองคีรูนา (Kiruna) ประเทศสวีเดน เมื่อปีพ.ศ. 2449 ยังถูกตกแต่งเพิ่มเติมด้วยงานสลักอันละเอียดประณีต บอกเล่าสถานที่และวันเวลาของการค้นพบอุกกาบาตนี้



ด้วยแรงบันดาลใจจากด้านที่สว่างและมืดมิดของดวงจันทร์ โทนสีภายในตัวรถที่ประกอบไปด้วยหนังสีอาร์กติก ไวท์ (Arctic White) หรือสีเซลบี เกรย์ (Selby Grey) ทำให้เกิดการผสมผสานของพื้นผิวที่มีเอกลักษณ์ระหว่างผิวสัมผัสแบบมันวาวและซาติน ซึ่งต่างเสริมด้วยความพิเศษของผิวเมทัลลิค พื้นผิวมันวาวสีดำไล่ตั้งแต่แผงหน้าปัดไปจนถึงคอนโซลกลาง ในขณะที่ผิวสัมผัสแบบซาตินถูกนำมาใช้บริเวณช่องเก็บของหน้ารถและที่พักแขนติดประตู ส่วนของพื้นผิวสีดำเงาถูกแต่งเติมให้สง่างามด้วยลายทางที่ทำจากสแตนเลสดูหรูหรา ทั้งในแบบตัวเลือกโทนสีสว่างและสีเข้ม ระบบลำโพงเสียงสั่งผลิตพิเศษจะถูกเคลือบผิวด้วยสีทอง สอดคล้องกับองค์ประกอบที่เป็นทองทั่วทั้งคันรถ โดยส่วนประกอบต่างๆ ที่มีความโดดเด่นนี้ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากดาวเทียม ‘Voyager’ อันเป็นหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์สำคัญของนาซ่า ที่ได้นำพาแผ่นข้อมูลสีทองซึ่งบันทึกเสียงและภาพที่แสดงถึงความหลากลายทางชีวภาพและวัฒนธรรมของโลกขึ้นไปยังอวกาศ ด้วยความหวังที่ว่าสิ่งมีชีวิตอันชาญฉลาดนอกโลกอาจจะมีโอกาสได้พบกับสิ่งนี้

 

รายละเอียดการตกแต่งอันมีเอกลักษณ์บนแผงประตูของรุ่นฐานล้อยาว เข้ากันกับลวดลายในส่วน Gallery ของคอลเลกชัน ด้วยการเย็บแบบสีเดียวในเฉดที่แตกต่างกันเพื่อรายละเอียดงานฝีมือที่ดูละเอียดอ่อนลงตัว นาฬิกาไทเทเนียมสั่งผลิตพิเศษสีทองควบคุมด้วยไอน้ำ (vapour blasted) ที่ถูกฝังอยู่ ช่วยเติมเต็มคอนเซปท์อวกาศเคียงข้างสัญลักษณ์ สปิริต ออฟ เอ็กสตาซี ที่ผลิตจากไทเทเนียม แต่งด้วยลูกเล่นสีทองดูสง่างาม

 



Cullinan Genève 2019

หลังจากการเปิดตัวที่แกรนด์ เทตัน รัฐไวโอมิ่ง ประเทศสหรัฐอเมริกา สื่อทั่วโลกต่างพร้อมใจกันกล่าวขวัญถึงคัลลิแนน ว่าเป็นยานยนต์ที่ “ขับสบาย...ไปทุกที่” อย่างแท้จริง ยนตรกรรมอเนกประสงค์คันนี้ได้เริ่มต้นการเดินทางสุดท้าทายไปกับเหล่าลูกค้าของแบรนด์ ผู้ไม่เคยหยุดยั้งที่จะแสดงออกถึงไลฟ์สไตล์ที่สื่อตัวตนอย่างชัดเจน รถยนต์คัลลิแนนสุดพิเศษคันนี้ถูกรังสรรค์โดยเฉพาะสำหรับการผจญภัยครั้งนี้
รถยนต์รุ่น Cullinan Genève 2019  ผสานแนวคิดที่แตกต่างของความหรูหราและประโยชน์ใช้สอย ซึ่งเป็นแก่นแท้ของคัลลิแนนได้อย่างเฉลียวฉลาด พื้นผิวเพ้นท์มันเงาพิเศษ 5 ชั้นอันเปรียบเสมือนเครื่องหมายรับรองคุณภาพของแบรนด์ ถูกเจือด้วยสีเพตรา โกลด์ (Petra Gold) และแต่งด้วยลายเส้นสีน้ำเงินกรมท่า (Navy Blue) ที่ด้านข้างของตัวถัง ทำให้หวนนึกถึงเฉดสีกากีซึ่งเป็นที่โปรดปรานของนักสำรวจ ในขณะที่ภายในตกแต่งด้วยสีน้ำเงินกรมท่า (Navy Blue) และสีโอ๊ตมีล (Oatmeal) ที่เป็นโทนสีซึ่งเน้นการใช้งานจริงถูกสร้างจากหนังคุณภาพเยี่ยมที่สุด นอกจากนั้น แผงคอนโซลจากรอยัลวอลนัทยังถูกประดับด้วยนาฬิกาและตะแกรงลำโพงจากอะลูมิเนียมขัดเงาผลิตพิเศษ สะท้อนถึงสมรรถภาพทางเทคนิคของระบบเสียงที่เป็นกรรมสิทธิ์ของโรลส์-รอยซ์ได้อย่างแยบยล

ทางด้านหลังของรถ แผนก Rolls-Royce Bespoke Collective ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มนักออกแบบ วิศวกร และช่างฝีมือผู้เปี่ยมพรสวรรค์ของแบรนด์ ได้นำเสนอรูปแบบที่น่าดื่มด่ำที่สุดของความลักซ์ชัวรีแบบอเนกประสงค์ใน Genève 2019 ด้วยโมดูลสันทนาการแบบถอดออกได้ที่ถูกจัดวางอย่างเหมาะเจาะในพื้นที่เก็บของของรถยนต์ ฟังก์ชันบริการรับรอง (Hosting Service) แปลงแนวคิดของการหยุดพักผ่อนกับเพื่อนร่วมทางให้กลายเป็นจริง และยังถูกออกแบบเพื่อเพิ่มคุณค่าให้แก่ช่วงเวลาที่ใช้กับคนที่คุณรักได้อย่างสมบูรณ์แบบ 

 เมื่อฝาปิดอัตโนมัติยกเปิดออกและลิ้นชักเคลื่อนออกมาในตำแหน่งที่เหมาะสม เจ้าของรถจะพบกับชุดอุปกรณ์ค็อกเทลและเครื่องปรุงรส ซึ่งทำจากสแตนเลสสั่งทำพิเศษที่ชั้นบน และเครื่องแก้วที่ถูกวางเรียงอย่างสวยงามพร้อมกับจานเสิร์ฟทำจากอเมริกันวอลนัทที่ชั้นล่าง หากผู้ใช้ต้องการนำเสนอของว่างแก่แขก ก็สามารถใช้จานสแตนเลส 2 ใบที่สลักด้วยโมโนแกรมอักษรไขว้ RR ของโรลส์-รอยซ์ ซึ่งถูกเก็บอยู่ในซองหนังธรรมชาติ และวางลงบนที่รองจานหนังเคลือบขอบด้วยอะลูมิเนียมได้
แอพเพอริทิฟ (Aperitifs) ก่อนอาหาร ถูกผสมในแก้วคริสตัลทรงสูงที่ถูกเคลือบตกแต่งด้วยลายโมโนแกรมอักษรไขว้ RR ของแบรนด์ โดยใช้ที่ขูดผิวเลมอน ที่ตวงส่วนผสมค็อกเทล ที่คีบน้ำแข็ง และไม้คนผสมเครื่องดื่มที่ทำจากอเมริกันวอลนัท ช่องเก็บของที่ถูกซ่อนไว้ยังมีผ้าเช็ดปากลินิน หลอดดูดน้ำสแตนเลส และที่บดพริกไทยเพื่อความครบถ้วนของชุดอุปกรณ์นี้ โดยฟังก์ชั่นที่โดดเด่นส่วนนี้จะมาพร้อมกับ Viewing Suite อันประกอบไปด้วยเบาะที่นั่งหนัง 2 ที่นั่งซึ่งที่ถูกออกแบบมาอย่างงดงามในสไตล์ร่วมสมัยและโต๊ะค็อกเทลซึ่งถูกเก็บอยู่ในช่องเก็บของด้านหลังของรถยนต์คัลลิแนน

Dawn Genève 2019

เพื่อเป็นการยกย่องอัตลักษณ์อันโดดเด่นที่บริการสั่งผลิตพิเศษได้ฝังเข้าไปในโรลส์-รอยซ์แต่ละคัน Dawn Genève 2019 คันนี้ถูกออกแบบพื้นผิวภายนอกเป็นสีบลู คริสตัล (Blue Crystal) ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ บนสีเพ้นท์ มิโลริ แซฟไฟร์ (Milori Sapphire) ที่รวมเอาชั้นแลกเกอร์หล่อหลอมเข้ากับอนุภาคของกระจก เพื่อสร้างพื้นผิวที่มีลูกเล่นแวววาวดังคริสตัล  ส่วนตัวถังรถยนต์ได้ถูกเสริมด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ ‘แอโร แควลิง’ (Aero Cowling) ของแบรนด์ แต่งขอบด้วยหนังสีน้ำเงินกรมท่า (Navy Blue) สร้างโครงเงาให้แก่รถยนต์เปิดประทุน 2 ที่นั่งได้อย่างสง่างาม ที่นั่งคนขับของ Dawn Genève 2019 ด้านหน้าถูกแต่งขอบด้วยหนังสีเซลบี เกรย์ (Selby Grey) และด้านหลังถูกตกแต่งด้วยหนังสีน้ำเงินกรมท่า (Navy Blue) ซึ่งเสริมสร้างความโดดเด่นมากขึ้นให้กับตำแหน่งที่นั่งของผู้ขับขี่ บรรยากาศที่มีชีวิตชีวาภายในตัวรถถูกเติมแต่งด้วยแดชบอร์ดเปียโน มิโลริ แซฟไฟร์ (Piano Milori Sapphire) ที่ถูกขัดด้วยมือเป็นระยะเวลา 12 ชั่วโมงและเข้ากรอบอย่างบรรจงด้วยแถบเงิน ในขณะที่แผงวีเนียร์จากไม้รอยัลวอลนัทถูกประกอบเข้ากับแผงประตู, ฝากระโปรงด้านหลัง และคอนโซลกลางเพื่อมอบความสว่างอันนุ่มนวลและพื้นผิวที่น่าสัมผัส

Black Badge

นับตั้งแต่โรลส์-รอยซ์เปิดตัวรถยนต์ตระกูลแบล็ค แบดจ์ กลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ผู้หลงใหลในความหรูหราและมีความคล่องแคล่วเปี่ยมไปด้วยพลัง ได้ให้การตอบรับด้วยการร่วมสร้างตัวตนที่ชัดเจนของแบรนด์ผ่านยนตรกรรมสั่งทำพิเศษที่มีความเป็นปัจเจกสูงของพวกเขา สำหรับงาน Geneva Motor Show 2019 นี้โรลส์-รอยซ์ จะนำเสนอรถยนต์แบล็ค แบดจ์ 2 คัน ซึ่งนับเป็นรุ่นพิเศษที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยคำนึงถึงรสนิยมของกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ ที่ปรารถนาจะป่าวประกาศอัตลักษณ์รถยนต์โรลส์-รอยซ์ของตน

สีกาลิเลโอ บลู (Galileo Blue) ได้ถูกเลือกเพื่อเสริมให้วัสดุของเรธ แบล็ค แบดจ์ (Wraith Black Badge) โดดเด่นมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ลายเส้นสีส้มแมนดาริน (Mandarin) ข้างตัวถัง สะท้อนถึงความนิยมในปัจจุบันต่อเทคนิคสีสันที่ตัดกันเพียงเล็กน้อยแต่ทรงพลังของโทนสีในรถยนต์แต่ละคัน  ภายในตัวรถ หนังสีอาร์กติก ไวท์ (Arctic White) และสีน้ำเงินกรมท่า (Navy Blue) ตัดด้วยโทนสีส้มแมนดาริน (Mandarin) บนขอบเบาะที่นั่งและลายเส้นข้างตัวถังรถ ในขณะที่ระหว่างเบาะที่นั่งด้านหลังทั้งสองถูกตกแต่งด้วยลวดลายทรงหกเหลี่ยมชวนมอง ที่ทำจากเส้นใยฝ้ายคุณภาพดี


โกสท์ แบล็ค แบดจ์จะถูกจัดแสดงในสีกันเมทัล (Gunmetal) ที่มีผิวสัมผัสซาตินบริเวณด้านบนและแบบมันวาวบริเวณด้านล่าง สีสันที่ดูแข็งแกร่งและเรียบง่ายเน้นการใช้ประโยชน์เป็นสำคัญนี้จะถูกเสริมพลังด้วยแถบเส้นสีไลม์ กรีน (Lime Green) บนดุมล้อรถ หนังสีแอนธราไซต์ (Anthracite) และสีดำถูกใช้สำหรับทั้งที่นั่งด้านหน้าและด้านหลัง ในขณะที่ขอบสีไลม์ กรีน (Lime Green) บริเวณช่องเก็บของตรงฝาประตู เข้ากันได้อย่างลงตัวกับธีมสีด้านนอกตัวรถ ลวดลายการตกแต่งบนที่วางแขนเบาะนั่งด้านหลัง สะท้อนถึงแผ่นวีเนียร์จาก Technical Fibre และการผสมผสานใยฝ้ายคุณภาพดีเข้ากับหนังที่มีความนุ่มสบาย ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ลงตัวเช่นเดียวกันการเคลือบผิวซาตินและผิวมันวาวบนตัวถังรถ

โรลส์-รอยซ์ อาร์ต โปรแกรม (Rolls-Royce Art Programme)

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โรลส์-รอยซ์ อาร์ต โปรแกรมได้สนับสนุนศิลปินแถวหน้าชื่อดังหลายคน เช่น ไอแซค จูเลียน (Isaac Julien), อาซาด ราซา (Asad Raza), แดน โฮลด์สเวิร์ธ (Dan Holdsworth) และ หยาง ฟู๋ตง (Yang Fudong) อาจกล่าวได้ว่าโรลส์-รอยซ์มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับโลกของศิลปินอย่างชัดเจนมาโดยตลอด ทั้งในแง่ของความมุ่งมั่นในการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ การค้นหาขอบเขตทางความคิดและเทคนิค รวมไปถึงความตั้งใจที่จะใช้เวลาอย่างเต็มที่ในการค้นหาความหมายและคุณค่าของสรรพสิ่ง

โรลส์-รอยซ์ จะแสดงผลงานใหม่ของศิลปินโทมัส ซาราเซโน (Tomás Saraceno) ที่งาน Geneva Motor Show ระหว่างวันที่ 7-17 มีนาคม 2562 โดยผลงานที่จะจัดแสดงนั้นจะถ่ายทอดถึงวิธีการรังสรรค์งานของศิลปินที่มีความเกี่ยวข้องกับแมงมุม งานศิลปะที่ถูกถักทอด้วยกลุ่มแมงมุม ปรากฏสู่สายตาราวกับกาแล็กซีที่ล่องลอยอยู่อย่างไร้ทิศทางนี้ เป็นผลงานที่สะท้อนถึงการพบกันระหว่างปรากฏการณ์และการผลัดเปลี่ยนของมาตราส่วน จากเส้นใยที่เชื่อมโยงจักรวาลไปจนถึงละอองฝุ่นขนาดเล็กที่เกาะกลุ่มกันบนเส้นใยบางๆ ราวกับแพรไหม งานศิลปะชิ้นนี้แสดงให้เห็นว่าเราอยู่ร่วมกับสิ่งมีชีวิตอื่นในหลายระดับ ซึ่งภายหลังจากการจัดแสดงในงานนี้ ผลงานชิ้นนี้จะถูกย้ายไปที่ Home of Rolls-Royce ในกู้ดวูด เวสต์ซัสเซกซ์ ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2562 เป็นต้นไป

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้