ปอร์เช่ เผยโฉม คาเยนน์ คูเป้ (Porsche Cayenne Coupé)เสริมทัพยนตกรรมสปอร์ต SUV ด้วยตัวถังใหม่ล่าสุด

แนวโค้งหลังคาที่เรียบหรู เฉียบคม ยากจะหายนตรกรรมใดเทียบเคียง

รูปทรงตัวถังเน้นย้ำความสปอร์ต ผสมผสานงานออกแบบที่ไม่ซ้ำใคร ยกระดับ คาเยนน์ คูเป้ ใหม่ (The new Cayenne Coupé) ให้งามสง่า เหนือล้ำ อย่างไร้คู่เปรียบ “แนวหลังคาที่ลาดลงจรดท้ายรถอย่างมีนัยสำคัญคือภาพแห่งความแข็งแกร่ง ที่ปรากฎท้าทายต่อสายตา ทุกคู่เมื่อมองมาที่ คาเยนน์ คูเป้ (Cayenne Coupé) ปฎิเสธไม่ได้เลยว่านี่คือยนตรกรรม ที่ยืนอยู่บนตำแหน่งสูงสุดของสปอร์ต SUV ในระดับเดียวกัน” Michael Mauer, รองประธานกรรมการผู้ดูแลส่วนงาน Style Porsche กล่าวแสดงความคิดเห็น คาเยนน์ คูเป้ (Cayenne Coupé) สะท้อนเอกลักษณ์อันแตกต่างของตัวถังคูเป้ ให้โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยสปอยเลอร์หลังคา กระจกบังลมหน้าและเสา A-pillar ที่ลาดเอียงกว่าคาเยนน์ (Cayenne) รุ่นดั้งเดิม ตำแหน่งของขอบหลังคาที่ลดระดับต่ำลงประมาณ 20 มิลลิเมตร ประตูคู่หลังรูปทรงใหม่ พร้อมซุ้มล้อที่ได้รับการขยาย ขนาดให้กว้างขึ้นถึง 19 มิลลิเมตร ทั้งหมดนี้เสริมให้ตัวรถมีมุมมองโดยรวมอันแข็งแกร่งยิ่งขึ้น จุดยึดป้ายทะเบียนหลัง ถูกรวมเข้าเป็น ส่วนหนึ่งของกันชนท้ายเพื่อลดระดับสายตาให้สังเกตเห็นเสมือนว่าระดับตัวรถแนบสนิทเข้าใกล้พื้นถนน ยิ่งขึ้น

 

เมื่อพิจารณาถึงความยอดเยี่ยมของสปอยเลอร์หลังคาปรับระดับอัตโนมัติซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับการติดตั้งในปอร์เช่ คาเยนน์ เทอร์โบ (Porsche Cayenne Turbo) สปอร์ต SUV พลังแรงเป็นครั้งแรก มีบทบาทสำคัญในเรื่องของระบบ อากาศพลศาสตร์ แน่นอนว่าสำหรับ คาเยนน์ คูเป้ (Cayenne Coupé) ย่อมไม่พลาดที่จะนำข้อได้เปรียบของอุปกรณ์ ดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ โดยสปอยเลอร์หลังคาจะทำหน้าที่ ร่วมกับสปอยเลอร์หลังปรับระดับอัตโนมัติ หรือ adaptive rear spoiler ทั้งหมดข้างต้นถือเป็นส่วนหนึ่งของ ระบบจัดการอากาศพลศาสตร์ Porsche Active Aerodynamics (PAA) สปอยเลอร์ดังกล่าวได้รับการออกแบบอย่างกลมกลืนสะท้อนความเป็นสปอร์ต SUV เมื่อยกตัวขึ้นสูงถึง 135 มิลลิเมตร ที่ความเร็วตั้งแต่ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป สามารถช่วยให้เกิดแรงกดไปยังล้อขับเคลื่อนคู่หลังให้สัมผัสกับพื้น ผิวถนนได้อย่างมั่นคง ในขณะที่ ระบบ PAA รับหน้าที่จัดการไหลเวียนของกระแสอากาศที่ผ่านตัวรถให้มีประสิทธิภาพ สูงสุด

 

อุปกรณ์มาตรฐานสุดล้ำ หลังคาแก้วพานอรามิก พร้อมอุปกรณ์พิเศษหลังคาคาร์บอน

ปอร์เช่ คาเยนน์ คูเป้ ใหม่ (The new Porsche Cayenne Coupé) ติดตั้งหลังคาแก้วพาโนรามิกเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ด้วยพื้นที่กระจกเป็นบริเวณมากกว่า 2.16 ตารางเมตร ประกอบด้วยพื้นที่โปร่งแสงขนาด 0.92 ตารางเมตร ที่มอบสัมผัสอันปลอดโปร่งโอ่โถง พร้อมม่านปรับบังแสงที่ติดตั้งไว้ด้วยกันเพื่อปกป้องผู้โดยสารจากความร้อนของแสง อาทิตย์หรือความหนาวเย็นภายนอกรถ สามารถเลือกติดตั้งหลังคาคาร์บอนเป็นอุปกรณ์พิเศษสำหรับ คาเยนน์ คูเป้ (Cayenne Coupé) ได้ตามต้องการ ช่วยเสริมบุคลิกภาพ ของตัวรถให้เทียบเคียงรถสปอร์ตพันธ์แท้เฉกเช่นปอร์เช่ 911 จีที3 อาร์เอส (Porsche911 GT3 RS) หลังคาคาร์บอนสามารถติดตั้งร่วมกับชุดแต่ง lightweight sports packages ซึ่งประกอบด้วยอุปกรณ์ที่ให้ความเป็นสปอร์ตรุ่นใหม่ ได้แก่ พวงมาลัย GT Design ขนาด 22 นิ้ว น้ำหนักเบาพิเศษ เบาะนั่งสปอร์ตหุ้มผ้าลายตารางหมากรุกสุดคลาสสิก และชิ้นงานตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยคาร์บอนและวัสดุ Alcantara พิเศษสุดสำหรับ คาเยนน์ เทอร์โบ คูเป้ (Cayenne Turbo Coupé) ชุดแต่งดังกล่าวได้เพิ่มเติมระบบระบายไอเสีย แบบสปอร์ตเอาไว้ด้วย

 

สะดวกสบายทุกการเดินทางด้วยเบาะสปอร์ต 4 ที่นั่ง

ปอร์เช่ คาเยนน์ คูเป้ ใหม่ (The new Porsche Cayenne Coupé) นำเสนอพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง สะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารทั้ง 4 ตำแหน่ง เบาะนั่งคู่หน้าแบบสปอร์ตใหม่ ปรับระดับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง หมอนรองศีรษะ รวมเป็นชิ้นเดียวกับพนักพิงหลัง พร้อมปีกเบาะด้านข้างที่ให้การรองรับสรีระอย่างเหมาะสม ผ่อนคลายทุกการเดินทาง ในส่วนของห้องโดยสารตอนหลัง เวอร์ชั่นคูเป้ ได้รับการติดตั้งเบาะนั่งแบบแยกอิสระเป็นอุปกรณ์มาตรฐานหรือสามารถ เลือกติดตั้งเบาะหลังแบบ 2+1 ที่นั่งเช่นเดียวกับคาเยนน์ (Cayenne) ในรุ่นปกติได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วยระดับ ความสูงของพื้นห้องโดยสารตอนหลังที่วาง ตัวต่ำลง 30 มิลลิเมตรเมื่อเปรียบเทียบกับคาเยนน์ (Cayenne) ตัวถังปกติ หมายความว่าพื้นที่บริเวณเหนือศีรษะจะกว้างขึ้น แม้ว่าแนวหลังคาของสปอร์ต SUV คันนี้จะลาดเอียงลงก็ตามความจุของ ห้องเก็บสัมภาระท้ายรถอยู่ที่ 625 ลิตร – รองรับทุกกิจกรรมในการใช้งานประจำวัน และสามารถปรับเพิ่มความจุได้สูงสุดถึง 1,540 ลิตร เมื่อพับพนักพิงเบาะหลังลง (สำหรับคาเยนน์ เทอร์โบ คูเป้ มีความจุห้องเก็บสัมภาระท้ายรถที่: 600 ถึง 1,510 ลิตร)

เปิดตัวด้วยขุมพลังเทอร์โบชาร์จ พละกำลัง 340 แรงม้า และ 550 แรงม้า

นอกจากรูปทรงตัวถังและงานออกแบบในหลากหลายส่วนประกอบที่ตอกย้ำถึงความเป็นสปอร์ตเต็มขั้น ซึ่งส่งผลให้ ปอร์เช่ คาเยนน์ คูเป้ (Porsche Cayenne Coupé)  แสดงออกถึงความแตกต่างอย่างเด่นชัดจากคาเยนน์ (Cayenne) ตัวถังปกติ แต่นวัตกรรมเทคโนโลยีอันยอดเยี่ยมของยนตรกรรม SUV ทรงสมรรถนะเจเนอเรชั่นที่ 3  ยังคงได้รับการถ่ายทอดมาอย่าง ครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นขุมพลังเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังประสิทธิภาพสูง ระบบไฟฟ้าตัวถังล้ำสมัย หน้าจอดิจิทัล ควบคุมการทำงานด้วยระบบสัมผัส และเครือข่ายการติดต่อสื่อสารและความบันเทิงอันไร้ขีดจำกัด

 

พละกำลังชั้นเลิศ 2 ขนาดความจุ ได้ถูกจัดเตรียมไว้เพื่อประจำการใต้ฝากระโปรงของคาเยนน์ คูเป้ (Cayenne Coupé) เริ่มด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ เทอร์โบชาร์จ ขนาดความจุกระบอกสูบ 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 340 แรงม้า (250 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร เมื่อติดตั้งชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะ Sport Chrono Package สปอร์ต SUV คันล่าสุดนี้สามารถสร้างอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในระยะเวลา 6.0 วินาที และจะลดลงเหลือ 5.9 วินาที เมื่อติดตั้งชุดแต่ง lightweight sports packages พร้อมความเร็วสูงสุดที่ 243 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำหรับรุ่นเรือธง คาเยนน์ เทอร์โบ คูเป้ (Cayenne Turbo Coupé)  มั่นใจในความแรงเต็มพิกัดจากเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 4.0 ลิตร V8 ทวิน เทอร์โบ กำลังสูงสุดกว่า 550 แรงม้า (404 กิโลวัตต์) กระชากใจด้วยแรงบิดมหาศาลถึง 770 นิวตันเมตร ส่งผลให้คาเยนน์ เทอร์โบ คูเป้ (Cayenne Turbo Coupé) มีอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งไปยังความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาเพียง 3.9 วินาทีเท่านั้น พร้อมทะยานผ่านความเร็วสูงสุดที่ 286 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

อุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มสมรรถนะตอบสนองทุกความต้องการ

ปอร์เช่ คาเยนน์ คูเป้ (Porsche Cayenne Coupé)  เปิดรับคำสั่งซื้อแล้ววันนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โชว์รูมรถยนต์ปอร์เช่ เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ทุกสาขา

ปอร์เช่  คาเยนน์ คูเป้ (Porsche Cayenne Coupé):

อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 10.6 – 10.7 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 9.4 – 9.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 215 – 212  กรัมต่อกิโลเมตร

ปอร์เช่ คาเยนน์ เทอร์โบ คูเป้ (Porsche Cayenne Turbo Coupé):

อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 8.7 – 8.8 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 11.4 – 11.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 261 – 258 กรัมต่อกิโลเมตร 

อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเและค่าการปล่อยไอเสีย CO2 emission ได้รับการตรวจสอบตามมาตรฐานสากลที่ สอดคล้องกับวิธีการ Light Vehicle Test Procedure (WLTP) ล่าสุด สำหรับค่าการตรวจวัดอัตราการบริโภคน้ำมัน เชื้อเพลิงเฉลี่ยตามมาตรฐาน NEDC ที่ระบุในบทความนี้ ใช้อ้างอิงได้เฉพาะสภาพการทดสอบในช่วงเวลาเดียวเท่านั้น ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบ กับค่าการตรวจวัดอัตราสิ้นเปลืองของ NEDC ที่ได้จากวิธีการอื่นใดก่อนหน้าการทดสอบนี้

สำหรับข้อมูลอย่างเป็นทางการของผลทดสอบ อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยและอัตราการปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ emissions ในรถยนต์รุ่นใหม่อื่นๆ สามารถค้นหาได้จากเอกสาร “Guidelines on fuel consumption, CO2 emissions and power consumption of new passenger cars” [Leitfaden über den Kraftstoffverbrauch, die CO2-Emissionen und den Stromverbrauch neuer Personenkraftwagen], ผ่านตัวแทนจำหน่ายและสถาบัน Deutsche Automobil Treuhand GmbH (DAT) โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด