ที่สุดแห่งรถสปอร์ตสมรรถนะสูง: ปอร์เช่ 718 สไปเดอร์ (718 Spyder) และ 718 เคย์แมน จีที4 (718 Cayman GT4)

Last updated: 4 พ.ย. 2562  |  1505 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ที่สุดแห่งรถสปอร์ตสมรรถนะสูง: ปอร์เช่ 718 สไปเดอร์ (718 Spyder) และ 718 เคย์แมน จีที4 (718 Cayman GT4)

ต้อนรับสมาชิกใหม่ของสายพันธุ์ 718: การปรากฎกายครั้งแรกของปอร์เช่ 718 สไปเดอร์1) (Porsche 718 Spyder) และ 718 เคย์แมน จีที 4 2) (718 Cayman GT4) รุ่นใหม่ล่าสุด ปอร์เช่เปิดตัว 2 นวัตกรรมยานยนต์ที่เข้าถึง ทุกอารมณ์สปอร์ต เร้าใจด้วยพละกำลังเต็มพิกัด ที่การันตีสมรรถนะการขับขี่ในฐานะเรือธงรุ่นสูงสุดประจำตระกูล บุคลิกที่เปี่ยมล้นไปด้วยความเฉียบคม ดุดัน ประทับใจตั้งแต่แรกเห็น ไม่ต้องสงสัยถึงความเร้าใจเมื่อประจำการอยู่หลัง พวงมาลัย มั่นใจด้วยประสิทธิภาพการทรงตัวเหนือระดับจากการออกแบบติดตั้งตำแหน่งของขุมพลังเครื่องยนต์ นำมาซึ่ง ดุลยภาพอันสมบูรณ์แบบถ่ายทอดผ่านแนวคิดของรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางที่ให้อัตราการตอบสนองที่ดีเยี่ยมอย่างเหลือเชื่อหลากหลายประการ นับเป็นประวัติการณ์ครั้งแรกสำหรับการใช้พื้นฐานทางวิศวกรรมที่ล้ำเลิศร่วมกันระหว่าง 718 สไปเดอร์ (718 Spyder) และ 718 เคย์แมน จีที 4  (718 Cayman GT4) ทั้งนี้ยังได้รวมไปถึงแหล่งกำเนิดพละกำลัง ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ เครื่องยนต์ 6 สูบนอนไร้ระบบอัดอากาศ ขนาดความจุ 4.0 ลิตร  ประกอบกับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ขุมพลังบ็อกเซอร์ดังกล่าวให้กำลังสูงสุดถึง 420 แรงม้า (309 กิโลวัตต์) เท่ากันทั้ง 2 รุ่น ในขณะที่ จีที4 (GT4) รับบทบาทเป็นตัวแทนของรถถนนเวอร์ชั่นจีที (GT) สำหรับผู้เริ่มต้นมีใจให้รถสปอร์ตสายสนามพันธุ์แท้จากปอร์เช่ ในส่วนของตัวถังสไตล์ สไปเดอร์ (Spyder) คือตัวแทนของความงดงามบนเส้นสายที่โค้งมนกลมกลืนไร้ที่ติ ยนตรกรรมทั้ง 2 ยังคงรักษาไว้ซึ่งประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์ประสิทธิภาพสูง ช่วงล่างที่แบบรถแข่งจีที (GT) รวมทั้งระบบเบรก ที่ยอดเยี่ยม

ขุมพลังเครื่องยนต์ไร้ระบบอัดอากาศ High-revving รอบจัด ปลุกทุกสัมผัสให้ตื่นตะลึง

หัวใจหลักของรถสปอร์ตทั้ง 2 คือ เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบนอนบ็อกเซอร์ขนาดความจุ 4.0 ลิตร ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ ไร้ระบบอัดอากาศสมรรถนะสูง ที่มีพื้นฐานเดียวกันกับเครื่องยนต์เทอร์โบที่ได้รับการติดตั้งในปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า (911 Carrera) รุ่นปัจจุบัน ขุมพลังรอบจัดแบบ high-revving บล็อคใหม่ ให้พละกำลังสูงสุดกว่า 420 แรงม้า (309 กิโลวัตต์) – หรือแรงกว่าในตัวถัง จีที4 (GT4) รุ่นก่อนหน้าถึง 35 แรงม้า และในเจเนอเรชันที่ 3 ของรุ่นสไปเดอร์ (Spyder) มีพละกำลังเพิ่มขึ้นกว่า 45 แรงม้า พร้อมสนองตอบอย่างรวดเร็วฉับไวด้วยแรงบิดสูงสุดกว่า 420 นิวตันเมตร ที่พร้อมใช้งานตั้งแต่ 5,000 จนถึง 6,800 รอบต่อนาที เมื่อประกบกับเกียร์ธรรมดาส่งผลให้รถสปอร์ตทั้ง คู่พุ่งทะยานสู่ความเร็วสูงสุด 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไปอย่างง่ายดาย: 718 สไปเดอร์ (718 Spyder) สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 301 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำหรับ 718 เคย์แมน จีที4 (718 Cayman GT4) สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 304 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ยนตรกรรมสปอร์ตทั้ง 2 คันให้อัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาเพียง 4.4 วินาทีเท่านั้น ในส่วนของอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้ จากรถสปอร์ต เครื่องยนต์วางกลางดังกล่าว อยู่ที่ 9.1 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 10.9 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร เมื่อทดสอบ ตามมาตรฐาน New European Driving Cycle (NEDC) ความเหนือชั้นที่ได้เป็นเอกลักษณ์ เฉพาะตัวของเครื่องยนต์ไร้ระบบอัดอากาศจากปอร์เช่คือการผสมผสานระหว่างพละกำลังอันต่อเนื่อง และอัตราการตอบ สนองที่ฉับไวตามสไตล์ของรถแข่งจีที (GT) สายพันธุ์แรง ผลจากการออกแบบให้เครื่องยนต์สามารถทำรอบสูงสุดได้ถึง 8,000 รอบต่อนาที เสียงคำรามกึกก้องจากการทำงานของเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ยังคงเสน่ห์ดั้งเดิมไว้ นอกจากนี้ ยังได้รับการเพิ่มเติมระบบเทคโนโลยีล้ำสมัยอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ ระบบ adaptive cylinder control ทำหน้าที่ตัดการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงชั่วคราวลงหนึ่งฝั่งของกระบอกสูบในขณะที่ไม่ได้ใช้งานเครื่องยนต์แบบเต็มกำลัง ซึ่งช่วยลดอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงลง

นับเป็นครั้งแรกสำหรับเครื่องยนต์รอบจัด high-revving ที่ได้รับการติดตั้งหัวฉีดเชื้อเพลิงแบบ Piezo จ่ายน้ำมันตรง เข้าห้องเผาไหม้ หรือ direct fuel injection ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวสามารถปรับเปลี่ยนลักษณะการฉีดเชื้อเพลิง ให้แตกต่างกันได้สูงสุดถึง 5 รูปแบบอย่างอิสระ ส่งผลต่อการจุดระเบิดอันสมบูรณ์แบบ ลดมลภาวะจากไอเสีย เสริมด้วยระบบท่อร่วมไอดีแปรผัน variable intake system พร้อมวาล์วจัดสรรอากาศสองตำแหน่งเพื่อให้มั่นใจ ถึงประสิทธิภาพสูงสุดในการประจุอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์

ระบบอากาศพลศาสตร์สุดยอดเยี่ยม: มั่นใจด้วยแรงกดที่มากขึ้น

นอกจากความเหนือระดับที่อัดแน่นจนเต็มพิกัด ปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีที 4  (718 Cayman GT4) ยังได้รับการปรับปรุง แนวคิดด้านอากาศพลศาสตร์ในทุกส่วน ผลลัพธ์คือแรงกดหรือ downforce ที่มากกว่าเดิมถึง 50 เปอร์เซ็นต์ โดยที่ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่ออัตราเร่ง พิสูจน์ได้ด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่น ระบบอากาศพลศาตร์ของรถสปอร์ต เครื่องยนต์วางกลางทั้ง 2 คันนี้ มีส่วนเสริมสร้างประสิทธิภาพให้แก่ตัวรถอย่างเหลือเชื่อ: ไม่ว่าจะเป็น การออกแบบช่องสำหรับติดตั้งหม้อพักไอเสีย หรือ single-chamber arch rear silencer ขึ้นใหม่ ซึ่งช่วยในการเพิ่มพื้นที่ในการทำงานของดิฟฟิวเซอร์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เป็นอีกส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมแรงกดให้แก่ ด้านท้ายรถเพิ่มขึ้นถึง 30 เปอร์เซ็นต์ สำหรับ 718 เคย์แมน จีที 4  (718 Cayman GT4) ปีกหลังทรงสูงแบบยึดตายตัว คืออีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ให้ศักยภาพอันเยี่ยมยอด: ด้วยการสร้างแรงกดเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบ กับรถรุ่นก่อนหน้า ทั้งหมดนี้ก่อให้เกิดแรงกดมหาศาลถึง 12 กิโลกรัม เมื่อขับขี่ที่ระดับความเร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตัวถังด้านหน้าได้รับการปรับแต่งตามรูปลักษณ์ของรถแข่งจีที (GT) มุ่งเน้นความสมดุลย์สูงสุดด้วยลิ้น สปอยเลอร์ หน้าขนาดใหญ่ และครีบดักอากาศที่รับบทบาทในการจัดเรียงกระแสลมที่ผ่านเข้ามายังบริเวณซุ้มล้อคู่หน้าให้เป็นระเบียบ

ปอร์เช่ 718 สไปเดอร์ (718 Spyder): รถสปอร์ต โรดสเตอร์ พร้อมหลังคาประทุนน้ำหนักเบา

ปอร์เช่ 718 สไปเดอร์ ใหม่ (The new Porsche 718 Spyder) ถือกำเนิดขึ้นในฐานะยานยนต์สปอร์ตประสิทธิภาพสูงที่เน้น สมรรถนะการขับขี่อันเร้าใจ มาพร้อมหลังคาประทุนน้ำหนักเบาที่ใช้งานได้จริงในความเร็วสูง  ถ่ายทอดนวัตกรรมเทคโนโลยี อันเป็นตำนาน ต่อจากรถสปอร์ต โรดสเตอร์ที่สร้างชื่อเสียงไว้ในอดีต อาทิ ปอร์เช่ 550 สไปเดอร์ (550 Spyder) และ  718 อาร์เอส 60 สไปเดอร์ (718 RS 60 Spyder) ซึ่งทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นยนตรกรรมทรงเสน่ห์ที่สวยงามน่าหลงใหล ไม่ว่าในขณะเปิดหรือปิดหลังคาก็ตาม หลังคาประทุนได้รับการออกแบบให้เหมาะกับการใช้งานประจำวันได้อย่างสะดวก สามารถพับเก็บลงภายใต้ฝากระโปรงท้ายด้วยการทำงานอันรวดเร็วเพียงไม่กี่ขั้นตอน จุดสังเกตที่ 718 สไปเดอร์ (718 Spyder) แตกต่างจากรุ่น จีที 4 (GT4) คือสปอยเลอร์หลังแบบอัตโนมัติ ทำงานที่ความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเมื่อทำหน้าที่ร่วมกับดิฟฟิวเซอร์ ส่งผลให้สปอร์ตเปิดประทุนคันนี้คือหนึ่งเดียวในสายพันธุ์บ็อกเซอร์ (Boxster) ที่มีศักยภาพด้านอากาศพลศาสตร์ สามารถสร้างแรงกดบริเวณท้ายรถได้สูงอย่างเหลือเชื่อ

 

ช่วงล่างประสิทธิภาพสูงสไตล์รถแข่งจีที (GT): รองรับทุกสภาวะการขับขี่

นับเป็นครั้งแรกของ 718 สไปเดอร์ (718 Spyder) สำหรับการแชร์พื้นฐานของระบบช่วงล่างประสิทธิภาพสูงจากยนตกรรม พันธุ์แรงสายสนามแข่งจีที (GT) จาก 718 เคย์แมน จีที 4  (718 Cayman GT4) ให้เสถียรภาพ การยึดเกาะที่ไว้วางใจได้ในทุกการเข้าโค้ง ส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เข้าถึงอารมณ์สปอร์ตได้อย่างครบถ้วน ปรับแต่ง ระบบช่วงล่างใหม่ด้วยชุดสปริงและสตรัทน้ำหนักเบาเทคโนโลยีสนามแข่งทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ยึดเข้ากับชิ้นส่วน ของช่วงล่างโดยตรงในจุดที่เป็น ball joints ระบบ Porsche Active Suspension Management damping system ลดระดับความสูงของช่วงล่างลงถึง 30 มิลลิเมตร ช่วยให้ตัวรถมีจุดศูนย์ถ่วงหรือ centre of gravity ที่ต่ำลง รวมทั้งลดอาการโคลงตัวในแนวด้านข้างของตัวรถ  งานออกแบบระบบรองรับทั้งหมด เน้นสมรรถนะการขับขี่ด้วยความเร็ว สูง การตอบสนองของพวงมาลัยที่ให้การบังคับควบคุมอันเฉียบคม ว่องไว ของ 718 เคย์แมน จีทีโฟร์ (718 Cayman GT4) ทำให้รถคันนี้พร้อมทะยานลงสนามแข่งได้ทันที  แน่นอนว่า 718 สไปเดอร์ (718 Spyder) ย่อมต้องได้รับประโยชน์ จากงานออกแบบข้างต้นเช่นเดียวกัน ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Porsche Stability Management (PSM) ให้อัตราการตอบสนองที่รวดเร็วและแม่นยำ พร้อมทางเลือกในการสั่งปิดระบบและปรับรูปแบบการทำงานได้ถึง 2 ระดับ ระบบ Porsche Torque Vectoring (PTV) ทำงานร่วมกับชุดเฟืองท้าย mechanical rear differential lock ควบคุมและกระจายแรงบิดทั้งแนวระดับและแนวราบ บังคับทิศทางและทะยานเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ ในรุ่น จีที 4  (GT4) สามารถเลือกติดตั้งอุปกรณ์พิเศษชุดแต่ง Clubsport package เพิ่มเติม ซึ่งประกอบไปด้วยโครงสร้างนิรภัยโรลบาร์ เหล็กกล้าด้านหลัง หรือ rear steel roll bar ระบบดับเพลิงฉุกเฉิน hand-held fire extinguisher และเข็มขัดนิรภัยแบบจุดยึด 6 ตำแหน่งบนเบาะนั่งผู้ขับขี่

พลังที่อยู่ภายใต้การควบคุม: ระบบเบรกสมรรถนะสูง ยางรถยนต์ ultra-high-performance

ระบบเบรกสมรรถนะสูงติดตั้งประจำการลงใน 718 สไปเดอร์ (718 Spyder) และ 718 เคย์แมน จีที 4 (718 Cayman GT4) ให้ประสิทธิภาพและพละกำลังในการลดความเร็วที่ยอดเยี่ยม เหมาะกับการใช้งานทั้งการขับขี่บนถนนสาธารณะ หรือแม้ แต่ในสนามแข่งความเร็วสูง จากการทำงานของชุดเบรก aluminium monobloc fixed-calliper นอกจากนี้ ยังสามารถสั่งติดตั้งระบบเบรกเซรามิก Porsche Ceramic Composite Brake (PCCB) เป็นอุปกรณ์พิเศษเพิ่มเติมได้ตามต้องการ อีกหนึ่งอุปกรณ์ใหม่ล่าสุดใน 718 สไปเดอร์ (718 Spyder)  คือยางรถยนต์แบบ ultra-high-performance (UHP) ออกแบบเพื่อใช้กับยนตรกรรมปอร์เช่โดยเฉพาะ ทั้งนี้ยางดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของชุดแต่ง เพิ่มสมรรถนะซึ่งได้รับการติดตั้งลงใน 718 เคย์แมน จีที 4  (718 Cayman GT4)  สำหรับการขับเพื่อสร้าง สถิติความเร็วต่อรอบสนาม Nürburgring “Nordschleife”: ผลงานบนสนามอันเป็นตำนานสุดคลาสสิกของ วงการกีฬามอเตอร์สปอร์ตระยะทางกว่า 20.6 กิโลเมตร  รถคันนี้สามารถทำเวลาได้เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 10 วินาที

ปอร์เช่ 718 สไปเดอร์ (718 Spyder) และ 718 เคย์แมน จีทีโฟร์ (718 Cayman GT4) พร้อมรับคำสั่งซื้อแล้ววันนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมปอร์เช่ บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ทุกสาขา

1)ปอร์เช่  718 สไปเดอร์ (718 Spyder): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 9.1 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 10.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ 249 กรัมต่อกิโลเมตร
2)ปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีที 4  (718 Cayman GT4): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 9.1 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 10.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรอัตรการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 249 กรัมต่อกิโลเมตร

อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงและอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้รับการตรวจสอบตามมาตรฐานสากล ที่สอดคล้องกับวิธีการ Light Vehicle Test Procedure (WLTP) ล่าสุด สำหรับค่าการตรวจวัดอัตราการ บริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงตามมาตรฐาน NEDC ที่ระบุในบทความนี้ ใช้อ้างอิงได้เฉพาะสภาพการทดสอบในช่วงเวลาเดียว เท่านั้น ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับค่าการตรวจวัดอัตราสิ้นเปลืองของ NEDC ที่ได้จากวิธีการอื่นใดก่อนหน้า การทดสอบนี้

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้