Last updated: 4 ต.ค. 2562 | 1012 จำนวนผู้เข้าชม |
มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ยึดถือหลักการสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่สามารถ ‘ขับเคลื่อนทุกสมรรถนะ – Driving Performance’ เป็นหัวใจหลัก ผ่านการส่งมอบนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ที่หลงใหลในการขับเคลื่อนอันทรงพลังทั้งในด้านสมรรถนะ และรูปลักษณ์ดีไซน์ โดยนับตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยช่วงปลายปี 2560 แบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ได้สร้างปรากฏการณ์ด้านยอดขายที่เติบโตแบบก้าวกระโดดกว่า 300% ถือเป็นแบรนด์รถยนต์สปอร์ตที่เข้าไปนั่งในใจกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบยนตรกรรมสมรรถนะสูงในประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว โดยเราเน้นการใช้กลยุทธ์ “Customer Centric” (คัสตอมเมอร์ เซ็นทริค) ที่เน้นให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง นำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการที่มีความหลากหลายสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างครอบคลุม และตรงจุด เนื่องจากลูกค้าชาวไทยมีความต้องการที่เป็นเอกลักษณ์ และแตกต่างอย่างชัดเจน”
มร. บีเยิร์น กุซเทรา รองประธานบริหารฝ่ายขาย และการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เพื่อเป็นการสานต่อความสำเร็จของแบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นมาที่รถยนต์กลุ่มที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นนิช มาร์เก็ต (Niche Market) มากขึ้นล่าสุด จึงได้เปิดตัว Mercedes-AMG GT R โฉมใหม่ รถยนต์สปอร์ตสายพันธุ์แรงที่เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีแบบมอเตอร์สปอร์ตเต็มสมรรถนะ พร้อมมอบประสบการณ์ความเร้าใจให้กับทุกการขับขี่ด้วยพลังจากเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ผสานพลังกับระบบเกียร์แบบคลัทช์คู่ 7 สปีด ช่วยทำให้รถมีความคล่องตัวและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีดีไซน์สปอร์ตเต็มตัวที่โฉบเฉี่ยว ล้ำสมัย และโดดเด่นไม่เหมือนใครตามแบบฉบับของ Mercedes-AMG และถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการไปอีกขั้นของรถยนต์ในตระกูลนี้ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง และยาวนาน”
“ปัจจุบัน บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด นำเสนอรถยนต์ภายใต้แบรนด์ Mercedes-AMG ให้ลูกค้าเลือกสรรมากมายครอบคลุมรถยนต์ทุกเซ็กเมนต์ตั้งแต่รถยนต์คอมแพค รถยนต์สปอร์ต รถยนต์ซาลูน รถยนต์เอสยูวี รถยนต์สไตล์คูเป้ และรถยนต์สไตล์โรดสเตอร์ และจากการเปิดตัว Mercedes-AMG GT R ในครั้งนี้ ส่งผลให้ปัจจุบัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) นำเสนอรถยนต์ภายใต้แบรนด์ Mercedes-AMG แก่ลูกค้าชาวไทยรวมจำนวนทั้งหมด 19 รุ่นย่อย ได้แก่ Mercedes-AMG A 45 4MATIC, Mercedes-AMG CLA 45 4MATIC, Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC, Mercedes-AMG C 43 4MATIC, Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé, Mercedes-AMG C 63 S Coupé, Mercedes-AMG SLC 43, Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé, Mercedes-AMG GLE 43 4MATIC Coupé, Mercedes-AMG E 53 4MATIC+, Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ Coupé, Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+, Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+, Mercedes-AMG GT 53 4MATIC+ 4-Door Coupé, Mercedes-AMG GT 63 S 4MATIC+ 4-Door Coupé, Mercedes-AMG G 63, Mercedes-AMG GT S, Mercedes-AMG GT C Roadster รวมถึงรุ่นล่าสุดอย่าง Mercedes-AMG GT R โฉมใหม่ ที่มาเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอรถยนต์ในกลุ่มสปอร์ตสมรรถนะสูงระดับพรีเมี่ยมในประเทศไทยให้ครบครันมากยิ่งขึ้น” มร.บีเยิร์น กล่าวเสริม
Mercedes-AMG GT R โฉมใหม่
Mercedes-AMG GT R เป็นรถสปอร์ตตระกูล AMG GT และเป็นรถสปอร์ตรุ่นแรกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมอันล้ำสมัยของรถแข่งมาประยุกต์ใช้ซึ่งถือเป็นการยกระดับการขับขี่ที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพและความเร้าใจในทุกท่วงท่ารถยนต์รุ่นนี้เป็นการผสมผสานระหว่างสมรรถนะของรถสปอร์ตกลุ่ม AMG GT 3 กับการใช้งานในชีวิตประจำวันของรถสปอร์ตกลุ่ม AMG GT เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุดให้กับผู้เป็นเจ้าของที่ชื่นชอบความเร็ว
ดีไซน์ภายนอก รูปลักษณ์ของ Mercedes-AMG GT R โฉมใหม่ สะท้อนปรัชญาการออกแบบ Sensual Purity ที่ทั้งเมอร์เซเดส-เบนซ์และเอเอ็มจียึดถือ ส่วนหน้าของตัวรถมีลักษณะลาดต่ำ และกระจังหน้าแบบ AMG-specific radiator trim ที่ยื่นออกไปคล้ายจมูกฉลามนั้นสามารถช่วยลดแรงกดที่ด้านหลังตัวรถ ส่งผลให้การไหลเวียนของอากาศขณะรถเคลื่อนที่ดีขึ้น อีกทั้งยังประกอบด้วยวัสดุบังคับลมชุบโครเมี่ยม 15 ซี่เช่นเดียวกับรถแข่งรุ่น Mercedes-AMG GT 3
ล้ออัลลอยแบบ AMG forged wheels มีน้ำหนักเบา ช่วยประหยัดพลังงาน และทำให้ระบบช่วงล่างและการหมุนพวงมาลัยเป็นไปอย่างราบรื่นและแม่นยำ นอกจากนั้นยังมีหลังคารถที่ผลิตจากวัสดุคาร์บอน เสริมให้ตัวรถมีสีสันตัดกันสวยงามพร้อมติดตั้ง ระบบเบรกแบบ AMG high-performance composite brake สีเหลืองที่เป็นสีพิเศษสำหรับรถยนต์รุ่นนี้โดยเฉพาะ
ดีไซน์ภายใน ห้องโดยสารของ Mercedes-AMG GT R โฉมใหม่ มาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งดีไซน์ใหม่ในหลายจุด ซึ่งเป็นการออกแบบที่ได้รับอิทธิพลมาจากรถยนต์มอเตอร์สปอร์ต
เบาะที่นั่งที่ถูกปรับให้ต่ำลงเพื่อให้ผู้ขับขี่รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถ อีกทั้งยังเป็นเบาะที่นั่งแบบ AMG Bucket Seats หุ้มด้วยหนัง Nappa และ DINAMICA Microfibre ที่ช่วยปกป้องลำตัวด้านข้างได้ดีแม้ขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง ทั้งนี้ ผู้เป็นเจ้าของสามารถเลือกติดตั้งเบาะที่นั่งแบบ AMG Performance และอุปกรณ์เสริมต่างๆ เพื่อเพิ่มความเร้าอารมณ์ขณะขับขี่ เช่น ชุดเข็มขัดนิรภัยสีเหลือง หรือชุดแต่งห้องโดยสาร AMG Interior Piano Lacquer เป็นต้น, ชุดแต่ง AMG Interior Night เป็นชุดแต่งมาตรฐานของรถยนต์รุ่นนี้
มาพร้อมพวงมาลัยแบบ AMG Performance Steering ตกแต่งด้วย DINAMICA Microfiber สีดำ พร้อมหน้าจอแสดงผลบนพวงมาลัยจำนวน 2 หน้าจอแบบ AMG steering wheel buttons ลงตัวด้วยหน้าจอเรือนไมล์แบบ all-digital instrument display ขนาด 12.3 นิ้ว และเกียร์จะชุบสีดำเงาทั้งหมด, แผงหน้าปัดกว้างดีไซน์ใหม่ด้วยอัตราส่วนแบบ 16:9 ขนาด 10.15 นิ้ว ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการแบบ COMAND Online สื่อถึงเอกลักษณ์ของงานออกแบบอากาศยาน,แผงควบคุมตรงกลางมีหน้าจอแสดงผลมากถึง 8 จอบริเวณคอนโซลกลางแบบ AMG DRIVE UNIT ที่ออกแบบตามลักษณะเครื่องยนต์แบบ V8 และมีช่องลมของเครื่องปรับอากาศ 4 ช่องที่ดูคล้ายสปอตไลท์
ความปลอดภัยและเทคโนโลยี Mercedes-AMG GT R มีระบบกันสะเทือนที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับรถยนต์รุ่นนี้โดยเฉพาะโดยจะทำงานร่วมกับระบบ AMG RIDE CONTROL ด้วยการใช้โครงสร้างปีกนกสองชั้นเพื่อรักษาสมดุลของล้อ และติดสปริงไว้ด้านบน, ใช้นวัตกรรม AMG Lightweight Performance ที่เลือกสรรวัสดุน้ำหนักเบามาใช้ในการผลิต ทำให้โครงสร้างของรถมีน้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่นสูง แต่แข็งแกร่งและสามารถกระจายแรงได้เป็นอย่างดี,
ระบบควบคุมการยึดเกาะเอเอ็มจีแบบ 9 ระดับ หรือ AMG TRACTION CONTROL สามารถจำลองค่าแรงเสียดทานภายในระยะเวลาเพียงเสี้ยววินาทีเพื่อเตรียมระบบต่างๆ ของรถให้สอดคล้องกับสภาพพื้นถนน โดยมีกลไกชุดหม้อเพลาท้ายรถแบบ LSD เป็นตัวช่วย, เสาค้ำยึดล้อคู่หน้าช่วยลดแรงปะทะขณะเกิดอุบัติเหตุ, ยางรองแท่นเครื่องยนต์และยางรองแท่นเกียร์ที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อเพิ่มความสบายและคล่องตัวขณะขับขี่ โดยระบบสามารถปรับแต่งความยืดหยุ่นของทั้งสองชิ้นได้อย่างเป็นอิสระจากกัน ช่วยกระจายแรงกระทำด้านข้างได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังมีระบบท่อไอเสียเอเอ็มจีเพอร์ฟอร์มานซ์รูปทรงหกเหลี่ยมขนาดใหญ่ที่ใช้ท่อเก็บเสียงที่ผลิตจากไทเทเนี่ยมและเหล็กกล้าไร้สนิม ให้เสียงคล้ายคลึงกับเสียงรถแข่ง
Mercedes-AMG GT R โฉมใหม่ มาพร้อมกับระบบ AMG DYNAMIC SELECT ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดของเกียร์หลักได้ 5 แบบ คือ “C” (Comfort) สำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกผ่อนคลายและสะดวกสบาย, “S” (Sport) และ “S+”(Sport Plus) เน้นความเร้าใจในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น และ “I” (Individual) ที่สามารถช่วยจดจำรูปแบบการขับขี่ของผู้ขับได้ อีกทั้งยังมีโหมด “RACE” ที่เป็นโหมดเสริมสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการความแรงและเกียร์ที่เปลี่ยนได้รวดเร็วเหมือนอยู่ในสนามแข่งรถ ซึ่งจะมาพร้อมกับเสียงเครื่องยนต์ที่เร้าอารมณ์ ทั้งนี้ผู้ขับขี่สามารถสร้างข้อกำหนดทั้งหมดในแต่ละโหมดการขับขี่เองได้ด้วยการกดปุ่ม “M” (Manual) ที่อยู่ตรงกลางแผงควบคุม, ระบบเพลาหลังแบบแอคทีฟ (active rear axle steering) ที่จะหมุนเพลาล้อคู่หลังไปในทิศทางตรงกันข้ามกับเพลาล้อคู่หน้าเมื่อใช้ความเร็วสูงสุด 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อช่วยให้เข้าโค้งได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น และประหยัดแรงในการหมุนพวงมาลัย แต่หากความเร็วสูงสุดเกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ทั้งล้อคู่หน้าและหลังจะหมุนไปในทิศทางเดียวกันเพื่อเสริมสมดุลให้กับตัวรถ ทำให้ท้ายรถไม่ปัดเมื่อหักเลี้ยว
Mercedes-AMG GT R โฉมใหม่ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ความจุกระบอกสูบ 4 ลิตร ระบบไดเรค อินเจคชั่น และระบบเกียร์แบบคลัทช์คู่ 7 สปีด (seven-speed dual clutch transmission) ที่ช่วยทำให้รถมีความคล่องตัวยิ่งขึ้น และการตอบสนองของระบบเกียร์จะดีขึ้นตามจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ของผู้ขับขี่
Mercedes-AMG GT R ราคา 17,900,000 บาท