เอ็มจี เปิดตัว NEW MG HS PHEV ราคาอย่างเป็นทางการ“1,359,000” บาท

Last updated: 28 ต.ค. 2563  |  941 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เอ็มจี เปิดตัว NEW MG HS PHEV ราคาอย่างเป็นทางการ“1,359,000” บาท



บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มรถ SUV  และรถยนต์พลังงานทางเลือกในประเทศไทย ประกาศเปิดตัว NEW MG HS PHEV ชูแนวคิด “REFINEMENT” พร้อมขับเคลื่อนทุกคุณค่าของชีวิต โดยสะท้อนถึงความเหนือระดับ ทั้งความหรูหรา ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และการแนะนำเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้พละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion แบบโมดูลขนาดใหญ่ 16.6 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ทำให้สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV Mode) ได้ไกลถึง 67 กิโลเมตร โดยจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่โชว์รูม และศูนย์บริการเอ็มจีทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป




NEW MG HS PHEV ขับเคลื่อนด้วยระบบ Plug-in Hybrid ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เทอร์โบ         ขนาด 1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงที่มาพร้อมนวัตกรรม Hairpin Design พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาดใหญ่ 16.6 kWh และระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ EDU II – 10 Speeds มีกำลังสูงสุด 284 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร สามารถเลือกขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ได้ไกลสูงสุดถึง 67 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยเหนือระดับมาตรฐานยุโรป หรือ Advanced Synchronized Protection System มากถึง 25 ระบบ



เพิ่มความหรูหราของการตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยสี 2-Tone Monaco Blue พร้อมวัสดุผิวสัมผัสนุ่มแบบ Soft Touch เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Sport Bucket Seat โอบกระชับ มีห้องโดยสารเงียบยิ่งขึ้นจากการเพิ่มฟิล์มกันเสียงและแผ่นซับเสียงภายในห้องโดยสาร หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) ขนาดใหญ่ 1.1 ตารางเมตร เพิ่มสุนทรียภาพในการเดินทาง พร้อมเสริมความสะดวกสบายในการขับขี่ด้วยหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบ Full Virtual Dashboard ขนาด 12 นิ้ว และจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ 10 นิ้ว ระบบเสียงเหนือระดับด้วย BOSE 8.1 Sound System รวมถึงระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART รองรับการสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย


 



“NEW MG HS PHEV” มีสีตัวถังทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาว Arctic White โดยมีสีภายในแบบ 2-Tone Monaco Blue  ในขณะที่ตัวถังสีแดง Scarlet Red และสีดำ Black Knight จะมาพร้อมการตกแต่งภายในสีดำ

 


ข้อมูลผลิตภัณฑ์ NEW MG HS PHEV

NEW MG HS PHEV “REFINEMENT” พร้อมขับเคลื่อนทุกคุณค่าของชีวิต

รถ SUV รุ่นล่าสุดของเอ็มจี ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ผสานพลังสุดยอดแห่งระบบขับเคลื่อน 2 ระบบเข้าด้วยกัน ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า เพิ่มขีดสุดให้สมรรถนะในการขับขี่ พร้อมเทคโนโลยีและระบบ ความปลอดภัยขั้นสูง ครบครันด้วยองค์ประกอบการดีไซน์ที่โดดเด่น ภายใต้แนวคิด Brit Dynamic ที่ผสานทั้ง สมรรถนะ (Performance) การควบคุม (Handling) การออกแบบ (Design) และความปลอดภัย (Safety)      ได้อย่างลงตัว

 
REFINED PERFORMANCE: ขุมพลังแห่งการขับเคลื่อนที่สมบูรณ์แบบของระบบปลั๊กอินไฮบริด                    

NEW MG HS PHEV ขับเคลื่อนด้วยระบบ Plug-in Hybrid มีพละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร จากขุมพลังของเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 162 แรงม้า          แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor    ที่ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร มีระบบเกียร์แบบ EDU II – 10 Speeds ที่ใช้เวลาเปลี่ยนเกียร์เพียง 0.2 วินาที ตอบสนองได้อย่างทันใจ และเพิ่มความนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น สามารถทำอัตราเร่ง       0-100 ภายในเวลา 7.5 วินาที มาพร้อมรูปแบบการขับขี่ถึง 5 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Normal โหมด Eco โหมด EV และโหมด Sport เสริมด้วยปุ่ม Super Sport ที่สามารถเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น

 

แบตเตอรี่ใน NEW MG HS PHEV เป็นแบตเตอรี่ Lithium-Ion แบบ 6 โมดูล ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแบตเตอรี่ขั้นสูง โดยมีขนาดใหญ่ถึง 16.6 kWh ทำให้มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพในการสะสมพลังงานได้มากกว่าจึงวิ่งได้      นานขึ้น รวมถึงการทำระยะทางได้มากขึ้น โดยสามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% สูงสุดถึง 67 กิโลเมตร     ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง นอกจากนี้ ยังมีการใช้เทคโนโลยีในมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Hairpin Design ทำให้มอเตอร์ไฟฟ้าสามารถดึงสมรรถนะของการส่งกำลังและลดอัตราการสูญเสียพลังงานได้ดียิ่งขึ้น พร้อมระบบระบาย    ความร้อนแบบ Coolant ซึ่งดีกว่าระบบระบายความร้อนแบบปกติ ทำให้มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเพิ่มความมั่นใจและปลอดภัยในการขับขี่ด้วยแบตเตอรี่ที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก AMERICAN UL2580 และผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น

NEW MG HS PHEV มาพร้อมระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) ที่สามารถชาร์จพลังงาน    ในระหว่างการขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่ (Regenerative) โดยเลือกระดับการชาร์จพลังงานกลับได้ถึง 3 ระดับ      และด้วยเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ทำให้ NEW MG HS PHEV มีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดอยู่ที่              65 กิโลเมตรต่อลิตร* และมีการปล่อยค่าไอเสีย หรือคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 36 กรัมต่อกิโลเมตร

NEW MG HS PHEV ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ด้วยระบบกันสะเทือนของช่วงล่างแบบ Euro Tuning Suspension เสริมด้วยระบบช่วงล่างหน้าแบบ MacPherson Strut และช่วงล่างหลังแบบ Multi-link ที่มาพร้อมเหล็กกันโคลงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้มั่นใจยิ่งขึ้นเมื่อขับขี่บนทุกสภาพถนน

 
REFINED EXTERIOR: ขีดสุดของการออกแบบ

NEW MG HS PHEV มีความโดดเด่นทางด้านดีไซน์ที่ยกระดับพื้นฐานมาจากรถยนต์ C-SUV ยอดนิยม              อย่าง “MG HS” ซึ่งผสานความหรูหราและความสปอร์ตได้อย่างลงตัว มีการใช้เส้นสายตัวถังที่โค้งมน ในรูปแบบ British Shoulder Line กระจังหน้าเอกลักษณ์เฉพาะของเอ็มจีแบบ Stellar Magnetic Field ไฟหน้าแบบ LED Projector พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) ไฟท้าย LED Space Light Field ที่มีความโฉบเฉี่ยวและไฟเลี้ยวแบบ Sequential ที่แสดงผลแบบไล่ระดับทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพิ่มเอกลักษณ์ความเป็นรถยนต์ Plug-in Hybrid ด้วยล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ในสไตล์ Thunder Wing Blade ขนาด 18 นิ้ว


 

REFINED INTERIOR & UTILITY: สะดวกสบายตลอดเส้นทาง

NEW MG HS PHEV ตกแต่งห้องโดยสารภายในด้วยสี 2-Tone Monaco Blue ใส่ใจในทุกรายละเอียดด้วย วัสดุ Soft Touch เบาะหนังคู่หน้าแบบ Sport Bucket Seat ตกแต่งด้วยวัสดุ Alcantara เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง เพิ่มความเป็นส่วนตัวในห้องโดยสารด้วย NVH Luxury Silence Space เพิ่มฟิล์มกันเสียง และแผ่นซับเสียงภายในห้องโดยสาร ที่จะช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอกพร้อมหลังคาซันรูฟที่เปิดกว้างแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) บนพื้นที่เกือบ 90% ของพื้นที่หลังคามอบประสบการณ์ใหม่ในการ ขับขี่ด้วยจอแสดงผลอัจฉริยะ Full Virtual Dashboard ขนาด 12 นิ้ว และจอควบคุมกลางแบบทัชกรีนขนาด 10 นิ้ว ระบบเสียง BOSE 8.1 Sound System พร้อมสร้างบรรยากาศและสีสันให้กับการขับขี่ด้วย Interactive Ambient Light ที่สามารถปรับเฉดสีได้มากถึง 64 เฉดสี

 

นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกฝั่ง Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสาร    ตอนหลัง กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ระบบกรองอากาศ PM 2.5 ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ Smart Key  พร้อมปุ่ม Push Start และฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้าเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน

REFINED i-SMART: รู้ใจกว่าที่คิด

NEW MG HS PHEV มีการติดตั้งระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ที่ทำให้เอ็มจีเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี          การเชื่อมต่อ โดยทำให้ผู้ขับขี่สามารถสื่อสารกับรถเสมือนเป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยเทคโนโลยี AI ที่สามารถตอบโจทย์ผู้ขับขี่ด้วย Smart Command ที่สามารถสั่งการระบบผ่านคำสั่งเสียงภาษาไทยหรือควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ผ่านสมาร์ทโฟน พร้อมยกระดับความสมาร์ทเพื่อความปลอดภัยด้วย Emergency Call ซึ่งเป็นระบบโทรหาคนสำคัญอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉินเมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน Smart Connect เชื่อมต่อโลกออนไลน์อย่างชาญฉลาดสามารถเลือกฟังเพลงได้ทั้งรูปแบบออนไลน์และสตรีมมิ่ง ระบบค้นหาร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว พร้อมนำทางและรายงานการจราจรแบบ Real Time รวมทั้งการอ่านข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้อย่างทันเหตุการณ์ และยังสามารถอัพเกรดระบบได้เองผ่านช่องทางออนไลน์ Smart Check ที่มีระบบ Charging Management ในการตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ การชาร์จไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่ และการค้นหาสถานีอัดประจุไฟฟ้า รวมถึงการตรวจสอบสถานะรถยนต์และเตือนเมื่อมีสถานะผิดปกติ สั่งการล็อคหรือปลดล็อคประตูรถ ค้นหารถด้วยระบบ Find My Car  และการเข้าถึงบริการ Passion Service ของเอ็มจี ช่วยค้นหาศูนย์บริการ รวมถึงการบันทึกการดูแลรักษารถตามระยะ ผ่าน MG Mobile Application

 
REFINED SAFETY: ปลอดภัยรอบคัน

NEW MG HS PHEV มีระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย (Full Space Frame) และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System กว่า 25 ระบบ โดยแบ่งออกเป็นระบบความปลอดภัย    เชิงป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุที่ช่วยทั้งเรื่องระบบเบรก และช่วยรักษาเสถียรภาพในการขับขี่ จำนวน 14 ระบบ    และระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) หรือระบบช่วยควบคุมการ ขับขี่ และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ จำนวน 11 ระบบ

สำหรับระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) ถือเป็นระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ระดับที่ 2 (Partial Automation) โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ดังนี้

กลุ่มระบบที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา RDA (Rear Drive Assist)

ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)
 
กลุ่มระบบเตือนและควบคุมให้รถอยู่ในเลน LAS (Lane Assist System)

ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
 
กลุ่มระบบที่ช่วยในการขับขี่ FDA (Front Drive Assist)

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control)
 


นอกจากนี้ยังเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ          (Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัย 6 จุด กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) และระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer



NEW MG HS PHEV ได้เปิดตัวแก่สื่อมวลชนไปเมื่อวันก่อนที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และจะเปิดตัวต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการ ในงาน Fast Auto Show Thailand 2020 ระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายนนี้ ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา และที่ผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีทั้ง 138 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม เป็นต้นไป ทั้งนี้ บริษัทฯ จะทยอยส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป



NEW MG HS PHEV “REFINEMENT” พร้อมขับเคลื่อนทุกคุณค่าของชีวิต ราคา “1,359,000” บาท

มาพร้อมการรับประกันที่ทำให้ทุกท่านมีความอุ่นใจตลอดการใช้งาน
· การรับประกันแบตเตอรี่ในระบบ PHEV แบบไม่จำกัดระยะทาง ตลอดระยะเวลา 8 ปี
· การรับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 4 ปี หรือ 120,000 กม.

 พิเศษ!! สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถภายในสิ้นปีนี้ จะได้รับ

· ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
· ชุดอุปกรณ์ชาร์จไฟในบ้านหรือ MG Home Charger พร้อมค่าติดตั้ง
· ฟรี! ค่าบำรุงรักษาตามระยะนาน 5 ปี หรือ 100,000 กม. (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)




เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้