Flying Spur Hybrid อวดโฉมด้วยพลังงานรักษ์โลกใจกลางย่านหรู เบเวอร์ลี่ ฮิลส์

Last updated: 22 ก.พ. 2565  |  461 จำนวนผู้เข้าชม  | 

Flying Spur Hybrid อวดโฉมด้วยพลังงานรักษ์โลกใจกลางย่านหรู เบเวอร์ลี่ ฮิลส์

Flying Spur Hybrid กว่า 9 คัน ขับขี่อวดโฉมใจกลางย่านเบเวอร์ลี่ ฮิลส์ ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นระยะทางกว่า 10,500 ไมล์ โดยมีการขับขี่โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากว่า 3,000 ไมล์ ซึ่งเทียบเท่ากับการขับข้ามจากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่งของประเทศ พร้อมคุณสมบัติการประหยัดน้ำมันได้ถึง 3 แกลลอนต่อวันเมื่อเทียบกับ Flying Spur V8


สื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติกว่า 100 คนจากทั่วโลกมีโอกาสได้สัมผัส Flying Spur Hybrid ใหม่ในแคลิฟอร์เนียด้วยการขับขี่ในรูปแบบมอเตอร์ไฟฟ้าจากย่านเบเวอร์ลี่ ฮิลส์ ผ่านทิวทัศน์อันงดงามของเทือกเขา Ojai ไปจนถึงความงดงามของเมืองชายฝั่งใน Santa Barbara โดย Flying Spur Hybrid ได้ประมวลผลข้อมูลการขับขี่ในแต่ละวันและแสดงให้เห็นว่ากว่า 30% ของการขับขี่เป็นการใช้ระบบมอเตอร์ไฟฟ้า


ตลอดเส้นทางกว่า 194 ไมล์ โดยแบ่งเป็นการขับขี่บนเส้นทางหลัก 50 เปอร์เซ็นต์ การขับขี่บนถนนในแถบชนบท 44 เปอร์เซ็นต์ และการขับขี่ในเมือง 6 เปอร์เซ็นต์ ระบบนำทางอัจฉริยะได้คำนวณการใช้พลังงานแบตเตอรี่ออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการเก็บข้อมูลการขับขี่และการใช้พลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าในสภาพแวดล้อมของเมือง บนถนนทั่วไป และในสภาพการจราจรที่ติดขัด




ในการศึกษางานวิจัยล่าสุดของเบนท์ลีย์ระบุว่า ลูกค้ากว่า 70 เปอร์เซนต์ได้เผยถึงเหตุผลด้านความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นเหตุผลอันดับแรกในการเลือกซื้อรถยนต์ไฮบริด โดยกว่า 98 เปอร์เซ็นต์มีการขับขี่ในโหมดมอเตอร์ไฟฟ้าทุกวัน และ 83 เปอร์เซ็นต์มีการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ทุกวัน

อย่างไรก็ตาม ลูกค้ายังคงต้องการสมรรถนะในการขับขี่แบบรถยนต์แกรนด์ทัวริ่ง โดยการใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าในวันทำงาน และการใช้ระบบส่งกำลังแบบสันดาปภายในสำหรับกิจกรรมในวันหยุดสุดสัปดาห์ ดังนั้นจึงทำให้รถยนต์แบบไฮบริดเป็นโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากที่สุด สำหรับการเลือกครอบครองรถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ของเบนท์ลีย์นั้นแสดงให้เห็นเป็นตัวเลขยอดขายในปีที่แล้ว โดย 1 ใน 5 ของยอดขายอัครยนตรกรรมเอสยูวี รุ่น เบนเทก้า เป็นแบบเครื่องยนต์ไฮบริด

เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 อัครยนตรกรรมต้นแบบ รุ่น Flying Spur Hybrid ได้เดินทางกว่า 450 ไมล์ทั่วประเทศไอซ์แลนด์ด้วยเชื้อเพลิงชีวภาพเจเนอเรชั่นที่ 2 จำนวน 1 ถัง และแบตเตอรี่ที่ชาร์จไฟจากความร้อนใต้ดิน ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงสมรรถนะในการขับขี่ของอัครยนตรกรรมแกรนด์ทัวริ่ง ขณะที่ยังคงช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันเบนซินแบบธรรมดา การผสมผสานของประโยชน์ในการขับขี่ด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้าในเมือง และสมรรถนะในการขับขี่อีก 400 ไมล์ด้วยการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความมุ่งมั่นของเบนท์ลีย์ต่อรถยนต์ไฮบริดซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ ‘Beyond100’ เพื่อการขับเคลื่อนสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบ


Flying Spur Hybrid ได้แสดงให้เห็นว่าระบบไฮบริดไม่ได้ลดทอนความหรูหราหรือสมรรถนะของรถยนต์แต่ประการใด แต่ด้วยการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้าจึงทำให้สัมผัสได้ถึงความเงียบสงบในทุกรูปแบบของการขับขี่


ระบบส่งกำลังแบบใหม่ผสมผสานกับเครื่องยนต์เบนซินรุ่น V6 ขนาด 2.9 ลิตรและมอเตอร์ไฟฟ้าเทคโนโลยีล่าสุด ผลิตพละกำลังกว่า 536 แรงม้า ด้วยแรงบิด 750 นิวตันเมตร โดยผลิตพละกำลังเพิ่มขึ้นกว่า 95 แรงม้า เมื่อเทียบกับ Bentayga Hybrid
มอเตอร์อิเล็กทรอนิกส์เทคโนโลยีล่าสุดติดตั้งอยู่ระหว่างเกียร์อัตโนมัติและเครื่องยนต์ ผลิตพละกำลังสูงสุด 134 แรงม้า 400 นิวตันเมตร พร้อมมอเตอร์ซิงโครนัสชนิดแม่เหล็กถาวรให้แรงบิดเต็มกำลังในทันทีเพื่อการเร่งความเร็วจากการสตาร์ทแบบจอดสตาร์ท


E-motor ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 18.9 กิโลวัตต์ และสามารถชาร์จไฟได้ 100 เปอร์เซ็นต์ในระยะเวลาเพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับแต่ละภูมิภาค) โดยมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แปลงพลังงานที่เก็บไว้จากแบตเตอรี่แรงสูงเพื่อจ่ายให้กับ E-Motor หรือเสริมกับอุปกรณ์ประจุไฟฟ้าของรถยนต์ขนาด 12 วัตต์
Flying Spur ได้รับการออกแบบให้เป็นอัครยนตรกรรมที่เหมาะสำหรับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ห้องโดยสารที่หรูหราแบบร่วมสมัยได้ยกระดับการผสมผสานองค์ประกอบหลักจากดีเอ็นเอของเบนท์ลีย์เข้ากับเทคโนโลยีอันล้ำสมัย และงานฝีมือที่ดีที่สุดของโลก ประกอบกับรายละเอียดที่พิถีพิถัน พื้นผิวแกะสลัก และลวดลายเส้นสายอันร่วมสมัยที่จะทำให้ผู้ครอบครองสัมผัสได้ถึงประสบการณ์สุดพิเศษไปตลอดเส้นทาง
ความประณีตและความพิถีพิถันของงานฝีมือถือเป็นอัตลักษณ์ของเบนท์ลีย์ โดยสำหรับในโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจะสามารถลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารได้กว่า 50% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์สันดาป ผู้โดยสารจึงสัมผัสได้ถึงความเป็นส่วนตัว พร้อมความหรูหราและความเงียบสงบภายในห้องโดยสาร



สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด โทร 02-261-1050 หรือ LINE Official Account: @bentleybangkokaas คลิก https://lin.ee/4JOaZyE8V

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้