ซูเปอร์คาร์เครื่องยนต์สันดาบ V10 ดูดสดไร้หอย ที่มีแฮนดริ่งระดับหัวแถวในบรรดารถวางเครื่องกลางลำขับหลัง

หลังจากที่โลกได้ลิ้มลอง Huracan ที่โหดดุเหี้ยมเกรียมชนิดกัดไม่ปล่อยในรุ่น STO ไปแล้ว อะไรคือสิ่งที่ Lamborghini จะนำเสนอต่อจากนี้อีก? มันคือ Huracan Tecnica น้องนุชสุดท้อง (แล้วจริงๆ) ที่ถอดปีกถอดครีบถอดชุดเกราะที่ดุจัดของ STO ออกเหลือไว้ให้ดูดุพอดีๆ ดูไปแล้วคู่นี้เปรียบได้กับพี่น้อง GT3 และ GT3RS ของปอร์เช่ เพียงแต่ Tecnica จะสลับขั้วเพราะเป็นรุ่นโหดน้อยกว่าแต่ดันออกที่หลังไม่เหมือนฝั่งปอร์เช่

เอาเข้าจริงชื่อนี้ถูกใช้มาก่อนแล้วครั้งหนึ่งแต่น้อยคนนักจะจำได้ ย้อนกลับไปปี 2012 กับ Gallardo Edition Tecnica ที่อาจจะไม่คุ้นหูเท่าไหร่ มาดูรายละเอียดบางอย่างที่ขาดหายในตัว Tecnica เมื่อเทียบกับ STO กันบ้าง ชิ้นแรกเลยคือจานเบรก CCM-R ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงจากวงการมอเตอร์สปอร์ตแน่นอนราคาก็สูงมากๆ ด้วยถูกถอดออก และแทนที่ด้วยจานเบรกเซรามิกเกรดรถซูเปอร์คาร์ทั่วไป CCB ปกติที่สามารถทนความร้อนสูงได้ดีมากก็จริง แต่ไม่เทียบเท่าจาน CCM-R ขนาดจาน 380x38มม. ที่คู่หน้า 356x32มม.คู่หลัง

 แม้จาน CCB จะมีขีดจำกัดในการทนความร้อนจากการเบรกหนักๆ ต่อเนื่องนานๆ ได้ต่ำกว่า แต่ถูกชดเชยด้วยการออกแบบท่อดักอากาศเพื่อเพิ่มปริมาณลมไปเป่าจานเบรกเพื่อลดอุณหภูมิ แม้ไม่อาจเทียมประสิทธิภาพกับจาน CCM-R ได้ แต่วิศวกรตั้งใจออกแบบมันให้เหมาะสมกับรูปแบบของกลุ่มลูกค้าที่ใช้งาน Tecnica ที่เจาะจงในเรื่องการขับเท่โชว์หล่อในเมืองหรือถนนโล่งๆ ไปต่างจังหวัดมากกว่าที่จะขับแบบซีเรียสเอาเป็นเอาตายในสนามแข่ง

แต่อย่าได้เมินไปก่อนเพราะของดีที่สุดของ STO ถูกยกมาใส่ไว้เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ยังคงใช้ขุมพลัง V10(nat-asp) ดูดสดไร้หอยเพียวๆ ช่วงล่างอัจฉริยะควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ Magnetic Ride ระบบเลี้ยวล้อหลัง ขับเคลื่อนล้อหลังและยางเทพจาก Bridgestone และถึงแม้จะไร้ปีกหลังขนาดเรื่องของ STO มาช่วยสร้าง downforce ระดับ 480กก. แต่วิศวกรเตรียมการไว้พร้อมกับชุดแอร์โรไดนามิกที่ซ่อนพรางตัวตามดีเทลต่างๆ ของตัวรถ สามารถสร้าง downforce ได้ 180กก. ซึ่งมากกว่า 35% เมื่อเทียบกับ Huracan EVO ขับหลัง! หรือดีกว่า 20% ในเรื่องแอร์โรไดนามิก

ส่วนเรื่องดีไซน์ภายนอกจะดูเรียกร้องความสนใจน้อยลง เด่นน้อยกว่าเมื่อเทียบกับรุ่น STO แต่ Tecnica ก็ดูคมขึ้นในทุกๆ มิติดูแล้วเหมือนรุ่น face-lifted ของ EVO ขับหลัง แต่มันมีน้ำหนักตัวที่เบาหวิวรองจาก STO เพียง 1,379กก. (เทียบกับ 1,339 กก. ของ STO) ถือว่ายังเบากว่า EVO ขับหลังอยู่ 10 กก. และเมื่อเทียบกันในเรื่องฝีเท้าอัตราเร่ง 0-100กม./ชม. STO ทำได้เร็วสุด 3.0 วินาที Tecnica 3.2 วินาที EVO ขับหลัง 3.3 วินาที ในขณะที่ท็อปสปีด STO มีวิงหลังขนาดใหญ่มากทำให้เกิดแรงต้านอากาศสูงทำได้เพียง 310กม./ชม. ส่วนอีก 2คัน ทำได้เกิน 325 กม./ชม. ขึ้นไป

และถ้าอยากถามผมว่าคันไหนเจ๋งกว่า ผมตอบให้เลยว่ามันขับได้ยอดเยี่ยมมากในถนนสายรองที่เน้นโค้งตามชนบท พวงมาลัยแม่นยำมากคมกริบดุจใบมีดโกน ระยะฟรีน้อยมากๆ สื่อสารข้อมูลของกริปล้อคู่หน้าถึงฝ่ามือได้ยอดเยี่ยม

ช่วงล่างเกาะหนึบจิกโค้งให้ความมั่นใจสูง ตัวรถนิ่งแทบไม่มีอาการโคลงตัว สิ่งเหล่านี้มันสร้างความมั่นใจให้กล้าขับ Tecnica ในทุกช่วงความเร็วต้องยกเครดิตเรื่องนี้ให้ยาง Bridgestone ที่ใช้ความพยายามอุตสาหะอย่างสูงในการพัฒนายางที่ออกแบบขึ้นเฉพาะ ไม่เพียงแต่เน้นสมรรถณะในเรื่องการยึดเกาะถนน เน้นทำความเร็วหรือมีระยะเบรกสั้นเท่านั้น มันยังถูกออกแบบมาให้ขับขี่นุ่มนวลให้ความสบาย ให้ฟีดแบกอันยอดเยี่ยมส่งผ่านถึงพวงมาลัย ให้การตอบสนองที่ดีเยี่ยม บังคับควบคุมรถได้ยอดเยี่ยมทั้งบนถนนแห้งและถนนที่เปียกลื่นอีกด้วย

ผมได้โด้มีโอกาสลองขับ Tecnica ที่สนาม Ricardo Tormo ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับเมือง Valencia โดยมี Instructor ขับ STO นำ และไม่ต้องถามว่าผมจิกติดตูดมั้ย? ตอบเลยว่าไม่มีทางเพราะสกิลต่างชั้นกันเยอะ แต่พอขับไล่กวดตามไลน์ที่ Instructorนำ ทำให้ผมเข้าถึงศักยภาพของรถได้เร็วมาก ตลอดหลายรอบที่ขับผมใช้อยู่ 2 โหมด Sport และ Corsa

จากประสบการณ์ ที่เคยได้ขับทดสอบ Huracan ขับสี่ที่ให้ความมั่นใจเวลาเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง สามารถทำได้ง่ายกว่ามาก ไม่เครียด ท้ายไม่ดิ้น ทำให้กล้าขับเต็มที่ทุกโค้ง เปรียบเทียบไม่ได้เลยกับรุ่น Huracan ขับหลังที่มือระวิงกว่าและต้องขับรอบคอบกว่าพอสมควร แต่ Tecnica มันเป็นรถขับหลังที่เหนือกว่า มันให้การสื่อสารกับคนขับได้ดีกว่า ได้ยางที่เหนือกว่าได้ระบบตัวช่วยการทรงตัวที่ปรับจูนอัลกอรึทึมใหม่ทำให้สามารถควบคุมรถขับหลังได้เชื่องมือ ลดความสยองของรถขับหลังได้เยอะ! บอกเลยว่า Tecnica คือหนึ่งในซูเปอร์คาร์เครื่องวางกลางลำขับหลังที่ขับได้ง่ายสนุกเชื่องมือไม่น่ากลัวอีกคันที่คุณจะหาซื้อได้ในเวลานี้!

โหมด Strada : เป็นโหมดฮาร์ดคอร์น้อยที่สุด เหมาะสำหรับขับชิวๆ ทุกวัน ช่วงล่างจะถูกปรับให้อ่อนสุดนุ่มนวลขับสบายที่สุด พวงมาลัยผ่อนปรนน้ำหนักเบามือขึ้นเหมาะเวลาอยากผ่อนคลาย

โหมด Sport : เป็นโหมดที่ยอดเยี่ยมสำหรับขับบนถนนโล่ง บนทางด่วน ที่ใช้ความเร็วสูง ช่วงล่างถูกเซ็ตให้แข็งขึ้นมาอีกระดับ ให้ความยึดเกาะที่ยอดเยี่ยม มั่นใจสูง ตัวรถมีอาการโคลงตัวน้อย เร้าใจมากเป็นโหมดที่ส่วนตัวผมชอบมาก พอดีไปไม่น้อยไม่มากไป ถ้าใครชอบดริฟท์มันคือโหมดเดียวที่ระบบจะยอมให้รถมีอาการท้ายกวาดออกได้ (oversteering) ระบบจะปลอดปล่อยให้คนขับจงใจให้รถท้ายออกได้ แต่แอบคอยดูและเข้าควบคุมอยู่ห่างๆ จังหวะที่เข้าควบคุมก็เนียนซะจนไม่รู้ว่าระบบทำงานแล้ว แน่นอนมันทำให้คุณดูเป็นนักดริฟท์มือโปรได้ไม่ยาก

โหมด Corsa : เป็นโหมดที่เน้นทำความเร็วในสนาม ระบบจะไม่ยอมให้ท้ายรถกวาด แต่จะปล่อยให้คุณได้เป็นผู้ควบคุมจังหวะเกียร์เองอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะระบบจะให้เปลี่ยนเกียร์เองที่ Paddle Shift เท่านั้น มันเป็นโหมดที่ท้าทายนักขับที่ต้องเข้าใจโค้งในสนามที่คุณขับโค้งไหนควรใช้เกียร์ไหน ควรใช้คันเร่งเท่าไหร่ ถ้าคุณเข้าถึงมันจะให้ประสบการณ์ขับขี่อันน่าทึ่งเป็นรางวัล

แม้ว่า Huracan STO คือที่สุดของสายพันธุ์ที่รวมเอาสุดยอดออฟชั่นในเรื่องสมรรถนะรวมไว้อัดแน่นทั้งคัน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันไม่ใช่รถสำหรับทุกคนเพราะมันดูเยอะไปโหดไปสำหรับหลายๆคน ในขณะที่ Tecnica คือความน้อยแต่ลงตัว ถว่ามันถูกสร้างมาเพื่อไลฟ์สไตล์เป็นขับได้ทุกวันและราคาที่ไม่บ้าดีเดือดขนาดนั้น แต่ในเรื่องสมรรถนะผมกล้าพูดว่า Tecnica คือ 1 ในสุดยิเรถเครื่องวางกลางขับหลังที่ขับได้สนุก เชื่องมือขับง่ายและมั่นใจมากที่สุดเท่าที่มีในตลาด เอาจริงๆ แล้วมันอาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะได้เป็นเจ้าของซูเปอร์คาร์เครื่องยนต์สันดาบ V10 ดูดสดไร้หอย ที่มีแฮนดริ่งระดับหัวแถวในบรรดารถวางเครื่องกลางลำขับหลังในราคาที่สมเหตุสมผลที่สุดในยุคนี้ก็เป็นได้