Last updated: 30 เม.ย 2568 | 55 จำนวนผู้เข้าชม |
มาแล้วจ้าาาาา... Ferrari 296 Speciale และเวอร์ชันเปิดประทุน 296 Speciale A ปี 2026 ที่ตอนแรกดูเผิน ๆ ก็อาจจะไม่รู้สึกว่า “พิเศษ” อะไรนัก เพราะดีไซน์เรียบๆ ไม่มีปีกยักษ์ ไม่มีโป่งซุ้มแบบรถสนาม แต่นี่แหละคือซูเปอร์คาร์ขับหลังที่แรงที่สุดที่ Ferrari เคยผลิตออกมา ย้ำอีกทีว่า "ขับหลัง" และ "แรงที่สุด"! ใช่ครับ ถึงจะเป็นแค่เครื่อง V6 ขนาด 3.0 ลิตร แต่มากับระบบ plug-in hybrid ที่รีดแรงม้ารวมออกมาได้ถึง 869 ตัว แรงกว่า SP3 Daytona ที่เป็น V12 เสียอีก!
Ferrari บอกเลยว่า 296 Speciale ไม่ใช่รถสนามปลอม ๆ แต่มันคือรถที่ขับใช้งานบนถนนได้จริงสบายๆ แต่ซ่อนความดิบไว้ใต้ฝ่าเท้าแบบเต็มขั้น เครื่องยนต์ถูกอัปเกรดทั้งลูก ทั้งไส้ ใช้ก้านสูบไทเทเนียม น้ำหนักเบากว่าเดิม 35% เพลาข้อเหวี่ยงใหม่ เบากว่าเดิมอีกหลายโล มีการเจาะน้ำหนักส่วนเกินในบล็อกเครื่องเหมือนที่ใช้ในรถแข่ง Le Mans และเปลี่ยนสกรูเป็นไทเทเนียมทั้งยวง เพียงแค่เครื่องยนต์ก็ลดน้ำหนักไปเกือบ 20 ปอนด์จากรุ่นปกติแล้ว
และเมื่อรวมกับการไดเอทส่วนอื่น ๆ ทั่วทั้งคัน น้ำหนักทั้งรถลดลงจาก 296 GTB รุ่นธรรมดาถึง 132 ปอนด์ หรือประมาณ 60 กิโลกรัม แรงบิดยังคงเหมือนเดิมที่ 557 lb-ft แต่แรงม้าเพิ่มขึ้นอีก 6.2% พาให้ตัวรถทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 2.8 วินาที (แต่คันก่อนยังเคยวิ่งได้ 2.3 วิเลยนะ บอกเลย Ferrari อาจแอบกั๊กตัวเลข)
เรื่องช่วงล่างไม่ต้องห่วง ใช้โช้ก Multimatic แบบรถแข่ง GT3 พร้อมสปริงไทเทเนียมที่ช่วยลดการโคลงตัวลง 13% เตี้ยลง 5 มม. แถมยังยางหลังเป็น Michelin Pilot Sport Cup 2 ที่พัฒนาเฉพาะ แรงขนาดนี้ ขับหลังล้วน ๆ แต่ไม่ออกนอกลู่นอกทางง่าย ๆ เพราะ Ferrari ใส่ระบบควบคุม SSC 9.0 ที่คุมทั้งแชสซี ระบบทรงตัว เบรก ดิฟเฟอเรนเชียล และแรงบิดแบบเรียลไทม์ เพื่อให้รถนิ่งแต่เฉียบ ทั้งทางตรงและทางโค้ง
แอโรไดนามิกเองก็ล้ำไม่แพ้กัน ถึงจะไม่มีปีกโด่ ๆ แต่มีปีกซ่อน ปีกผุด ดักลมทั้งหน้า-หลัง มาพร้อมระบบสปอยเลอร์หลังแบบแอคทีฟที่ยกตัวได้เร็วขึ้น 50% กดแรงได้สูงสุด 959 ปอนด์ที่ความเร็ว 155 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือเกือบ 700 กิโลกรัม! ทั้งนี้ทั้งนั้นยังเน้นบาลานซ์น้ำหนักไปข้างหน้า เพื่อให้เข้าโค้งไวกว่าเดิม ซึ่งผลที่ได้ก็คือ 296 Speciale วิ่งรอบสนาม Fiorano ได้เร็วกว่า 296 GTB ปกติถึง 2.5 วินาทีเลยทีเดียว และเร็วเกิน 80% ของรถแข่ง Ferrari 296 Challenge ด้วยซ้ำ
ในห้องโดยสารก็ใส่ใจความเบา ใช้วัสดุ Alcantara กับคาร์บอนไฟเบอร์รอบคัน เบาะใหม่เบากว่าเดิมข้างละแค่ 5 กิโลกรัม มีสีเขียวใหม่ Verde Nürburgring ที่บอกเลยว่าชัด สะใจ และแตกต่างสุด ๆ ส่วนใครชอบรับลม 296 Speciale A ตัวเปิดประทุนก็มาให้พร้อมตั้งแต่เปิดตัว น้ำหนักเพิ่มจากตัวปิดแค่ 50 กิโลเท่านั้น
Ferrari บอกว่านี่จะเป็น “รถที่ขับสนุกที่สุดในตลาด” และดูจากตัวเลข บวกกับรอยยิ้มของทีมพัฒนาที่ขับมาแล้วจริง ๆ เราว่า…ไม่โม้เลย