Last updated: 4 พ.ย. 2562 | 2884 จำนวนผู้เข้าชม |
ความพิเศษของ Aventador คันนี้คือ เขาได้ชุดแต่ง libertywalk ชุดแรกๆ ในโลกที่มี fender kit มาให้ เราไม่จำเป็นที่จะต้องตัดรถ เขาให้ชุดพาร์ทจากโรงงานมาให้เลยไม่ว่าจะเป็นโป่งคู่หน้า-คู่หลังที่หล่อออกมาให้โดยมีสเกลที่ติดแทนได้พอดิบพอดีไม่ผิดเพี้ยน ถ้าอยากปรับลุคกลับมาเป็นรถสไตลิ่งโรงงานก็สามารถถอดออกแล้วเปลี่ยนกลับเข้าไปแทนได้เลย ซึ่งนั่นทำให้การใส่ชุดแต่ง Aventador จาก libertywalk ชุดนี้สามารถทำได้โดยไม่ต้องไปตัดบอดี้รถเดิม เมื่อทำเสร็จใส่ล้อใส่ช่วงล่างถุงลมแล้วก็ใส่โป่งจาก LB เข้าไปอีกทีหนึ่ง ซึ่งชุดแต่งนี้จะเรียกกันว่า Liberty walk aventador Full body kit with exchange fender type มีพาร์ทมาให้ทั้งหมด 8 ชิ้น ได้แก่ front bumper, front canard(carbon fiber), front diffuser(carbon fiber), side diffuser(carbon fiber), rear diffuser ver.2, rear wing ver.2 (dry carbon) และ wide fender
ระบบกันสะเทือนของช่วงล่างใช้แบบถุงลมที่เป็นแบบโช้คลอยงานเนียนๆ จาก AIRREX digital air suspension ซึ่งแบรนด์นี้เขาขึ้นชื่อในเรื่องของช่วงล่างถุงลมระดับไฮ-เพอร์ฟอร์แมนท์ ซึ่งรถบ้านหมดสิทธิ์ใช้เพราะเขาเลือกผลิตออกมาให้กับรถระดับพรีเมียมเท่านั้น ความพิเศษของ AIRREX คือการมอบสมรรถนะที่ดีกว่าโช้คอัพเดิมๆ จากโรงงาน สามารถปรับสูงต่ำ ปรับรีบาวด์ความหนืดได้ สมรรถนะระดับเดียวกับ Coilover แบรนด์ชั้นนำ หนึบ เกาะถนนกว่าเดิม ใช้งานประจำวันสะดวก เตี้ยได้ สูงได้ ตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ซึ่งมีอ็อพชันในการสั่งชุดติดตั้ง Air Struts ตรงรุ่น พร้อมปั๊ม, แผงวงจรควบคุม และรีโมทดิจิตอลรวมถึงมีจอ
แสดงผลในตัว แต่การนำมาใส่กับ Aventador คันนี้มาไม่ง่ายเพราะต้องคัสต้อมตู้เองด้วยพื้นที่ในรถที่จำกัด ซึ่งเดี๋ยวเราจะเล่ารายละเอียดในพาร์ทนี้กัน
จริงๆ แล้วขั้นตอนการทำกระทิงเปลี่ยวให้ออกมาสวยดุดันขนาดนี้ใช้เวลาทั้งหมดร่วม 2 เดือน ไม่รวมที่รอ
พาร์ทอื่นๆ จิปาถะที่สั่งมาต่างหากนะ พี่โอ้ตผู้ดูแลการโมฯ รถคันนี้ได้เล่าให้เราฟังว่า กว่าจะออกมาเป็นงานเนียนๆ แบบนี้ไม่ง่ายเลย เพราะต้องรื้อรถหัวท้ายจนแทบจะเหลือแต่โครงรถเพื่อทำช่วงล่างใหม่โดยเฉพาะก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งช่วงล่างถุงลมนั้นต้องทำแบบคัสต้อมใหม่ เพราะตามปกติถุงลมจาก AIRREX จะมาเป็นตู้ที่สามารถ
ติดตั้งได้ง่ายพอใส่ถุงลมเสร็จปุบเดินท่อลมแล้วก็เอาตู้ที่มีพวกงานระบบวางไว้ท้ายรถก็สามารถใช้งานได้เลย
แต่ว่าคันนี้มีพื้นที่จำกัดเพราะฉะนั้นทาง AIRREX จึงให้อุปกรณ์พวกคอนโทรลเลอร์และระบบถังลมให้มาเป็นชิ้นๆ แล้วเราก็ต้องมาสร้างตู้คัสต้อมเอง แล้วก็ใส่ตรงฝาหน้าที่เอาไว้เก็บของแทน ซึ่งงานนี้ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันเพราะต้องทำตู้คอนโทรลเลอร์ใส่ไว้โดยไม่ใช้การเจาะรถ ซึ่งงานเดินสายลมระหว่างถังลมไปที่ใต้รถจะมีความยากในการเก็บรายละเอียดพอสมควร ซึ่งงานนี้ต้องเพิ่งพาฝีมือช่างไทยมากประสบการณ์ของพี่โอ้ตที่เดินงานออกมาได้อย่างลงตัว จากนั้นจึงนำโป่งมาวัดกับตัวรถเพื่อทาบเข้าไป และพอล้อมาถึงก็ใส่เข้าไป ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนั้นยังไม่มีการทำสีก่อน เพราะต้องทำการปรับตั้งโป่งและล้อให้พอดีที่สุดก่อน เอาแบบใช้กระดาษแผ่นเดียวสอดเข้าไปได้ กระดาษ 3 แผ่นต้องสอดไม่เข้า นี่คือความตั้งใจของเราที่ต้องทำตรงนี้ให้เป๊ะก่อนจากนั้นค่อยทำสีรถ ซึ่งขั้นตอนการทำสีนั้นก็ไม่ง่าย เพราะสีดำด้านถ้าเกิดเราพ่นเป็นเม็ดเนี่ย ชิ้นงานจะเสียเลย ไม่สามารถนำไปขัดสีได้เหมือนชิ้นงานที่มากว่าจะจบการทำสีก็ทำได้ 4-5 รอบได้ละ
Aventador คันนี้ใช้ล้ออัลลอย forgiato ลาย maglia หุ้มด้วยยางขนาด 255/30/20 (f) และ 355/25/21(R) ส่วนเครื่องยนต์นั้นก็เป็นเครื่องเดิมไม่ได้โมดิฟายเพิ่มเติม แต่ก็แรงเหลือเฝืออยู่แล้ว โดยเป็นเครื่องยนต์ V12 60 องศา MPI (Multi Point Injection) ความจุกระบอกสูบ 6.5 ลิตร ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อน AWD ควบคุมด้วยระบบ Haldex gen. IV จัดกองทัพม้ามาให้ 690 hp และได้แรงบิดที่ตัวเลขออกเท่ากับพอดิบดีที่ 690 นิวตันเมตร ใช้โครงสร้างตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์แบบโมโนค็อกมีความแข็งแกร่งและมีน้ำหนักเบา ส่วนความแรงนั้นอัตราเร่งจาก 0-100 km/h สามารถทำได้ในเวลาที่ต่ำกว่า
3 วินาที ความเร็วสูงสุดเมื่อคุณกดคันเร่งจนมิดในทางตรงยาวสามารถทำความเร็วได้ถึง 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้ระบบเกียร์อัจฉริยะ ISR (Independent Shifting Rods) ประมวลผลฉับไวปรับเปลี่ยนเกียร์ในแต่ละเกียร์เพียงเศษเสี้ยวประมาณ 0.05 วินาที มีโหมดการขับ 3 โหมด คือ โหมดสตราด้า Strada สำหรับการขับบนท้องถนน โหมดสปอร์ต Sport สำหรับสนามแข่ง และโหมดคอร์ซ่า Corsa ที่ตัดระบบช่วยเหลือต่างๆ ออกไปแล้วปล่อยทั้งหมดให้คุณได้ควบคุมด้วยตัวเอง
ด้วยความสวยงามจากบอดี้ที่ลงตัวเพิ่มเติมด้วยชุดแต่งเนียนๆ จากแดนปลาดิบ ที่จอดแล้วเตี้ยติดพื้นหล่อๆ แบบนี้ ทำให้เจ้านี่ดึงดูดทุกสายตาที่มันเดินทางผ่านไปได้ไม่ยากเลย สำหรับใครที่อยากชมรถสวยๆ แบบนี้เราแนะนำให้ไปที่ Vattana Auto Sale ย่านถนนเพชรบุรีใกล้ๆ แค่นี้เอง
5 ม.ค. 2565