Last updated: 4 พ.ย. 2562 | 1124 จำนวนผู้เข้าชม |
เซอร์ไพรส์เด็ดสำหรับแฟนๆ มินิตลอดทั้งปี
เพื่อฉลองโอกาสครบรอบ 60 ปีนี้ มินิ ประเทศไทย จึงขอเอาใจลูกค้าชาวไทยด้วยหลากหลายแคมเปญตลอดทั้งปี โดยเริ่มต้นในเดือนแห่งความรักกับข้อเสนอประกันภัยชั้นหนึ่งนานสูงสุดถึง 60 เดือน[1] สำหรับลูกค้าทุกท่านที่ออกรถมินิ แฮทช์ 3 ประตู รุ่นคูเปอร์ และคูเปอร์ ดี มินิ แฮทช์ 5 ประตู รุ่นคูเปอร์ และคูเปอร์ ดี รวมถึงมินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ในเดือนกุมภาพันธ์ ศกนี้ โดยลูกค้ายังได้สิทธิ์ร่วมลุ้นตั๋วเครื่องบินไป-กลับ 2 ที่นั่ง ลัดฟ้าไปเยือนถิ่นกำเนิดของมินิถึงประเทศอังกฤษ และร่วมทริปเยือนโรงงาน MINI Plant Oxford เพื่อเยี่ยมชมสายการผลิตรถยนต์มินิอย่างใกล้ชิด จำนวน 10 รางวัล
อีกไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้คือการเปิดตัวมินิ รุ่นพิเศษ 60 Years Edition ในประเทศไทย พร้อมให้ยลโฉมพร้อมกันทั่วประเทศไทยในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน ศกนี้ ณ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี
ยกทัพเหล่าพันธมิตรมาร่วมฉลองหกทศวรรษอย่างคึกคัก พ่วงด้วยกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ
แน่นอนว่า มินิ ประเทศไทย ไม่ได้ฉลองปีเกิดอย่างเดียวดาย แต่ได้ขนทัพพันธมิตร แบรนด์ชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศมาร่วมเฉลิมฉลองปีเกิดมากมาย อาทิ เซ็นทรัลพัฒนา จัด MINI National Roadshow และ MINI Expo เปิดโอกาสให้ลูกค้าและผู้รักมินิทุกท่านสัมผัสรถยนต์มินิหลากหลายรุ่น ที่มาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ โดยงานจะเดินทางไปพบกับแฟนๆ ถึง 9 จังหวัด ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ ส่วนฝั่งแบรนด์ไอศกรีมพรีเมียม Guss Damn Good ก็มาร่วมกับมินิ ประเทศไทย รังสรรค์ไอศกรีมโฮมเมดรสชาติใหม่ในสไตล์มินิ โดยไอศกรีมรสใหม่นี้จะแจกให้ผู้เยี่ยมชมทุกท่านที่เข้าร่วมงาน MINI National Roadshow รวมถึงมีจำหน่ายที่ร้าน Guss Damn Good ทุกสาขาตลอดทั้งปี นอกจากนี้
แบรนด์เสื้อผ้าสัญชาติอังกฤษอย่าง SuperDry ก็จะสร้างสรรค์คอลเล็คชั่นใหม่ อัดแน่นด้วยแรงบันดาลใจจากเอกลักษณ์ของมินิตลอด 60 ปีที่ผ่านมา โดยคอลเล็คชั่นใหม่นี้จะวางจำหน่ายที่ร้าน SuperDry ทุกสาขาทั่วประเทศ แต่ความสนุกยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะมินิ ประเทศไทยก็จับมือกับ Plan B ผู้นำสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัย มอบเซอร์ไพรส์ให้ทุกคนเพื่อฉลอง 60 ปีของมินิครั้งนี้แบบทั่วถึงกัน
ส่วนกิจกรรมเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ลูกค้ามินิรอคอย และกิจกรรมที่จะกลับมาอีกครั้งในปีนี้ตามเสียงเรียกร้องของแฟนๆ อย่าง MINI UNITED ทางมินิ ประเทศไทยจะแจ้งรายละเอียดให้ทราบเร็วๆ นี้ โดยสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์และแฟนเพจ https://www.facebook.com/MINI.Thailand/
กลับมาให้เป็นเจ้าของกันอีกครั้งกับสีสุดคลาสสิก Ice Blue ของมินิ ที่เคยครองใจแฟน ๆ ในเจนเนอเรชั่นที่ผ่านมา ในปีนี้ แฟน ๆ ชาวไทย จะได้พบกับมินิ คูเปอร์ เอส Ice Blue Edition ที่มาในลุคเรโทรย้อนยุค แต่พกเทคโนโลยีล้ำสมัยและสมรรถนะล่าสุดของมินิมาอย่างเต็มเปี่ยม สะกดทุกสายตาบนท้องถนนด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์รอบคันสไตล์มินิ ในตัวถังสีฟ้า Ice Blue ตัดกับฝาครอบกระจกและเส้นสายบนฝากระโปรงหน้าสีส้ม Solaris Orange สร้างความโดดเด่นเฉพาะตัวให้แก่มินิรุ่นพิเศษนี้
โดยไฮไลท์ของการเปิดตัว มินิ คูเปอร์ เอส Ice Blue Edition รุ่นพิเศษนี้ คือลูกค้าจะสามารถทำการจองและสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างสะดวกและง่ายดาย บนเว็บไซต์ www.mini.co.th เพียงแค่เลือกรุ่นที่ต้องการ ระบุสาขาของผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ กรอกข้อมูลส่วนตัว และชำระค่าจองเป็นจำนวน 100,000 บาท หลังจากนั้นจะได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ภายในเวลา 48 ชั่วโมง โดยมินิ คูเปอร์ เอส Ice Blue Edition จะเปิดให้ทำการจองผ่านช่องทางออนไลน์อย่างเป็นทางการในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป
มินิ คูเปอร์ เอส Ice Blue Edition เสริมความปราดเปรียวด้วยชุดแต่งจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ รอบคัน ไม่ว่าจะเป็นสปอยเลอร์หลังคาสีฟ้า Ice Blue ล้ออัลลอยจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ลาย Track Spoke ขนาด 17 นิ้ว
สีดำแบบ runflat รวมถึงดีไซน์ภายในที่มาในลุคสปอร์ตโฉบเฉี่ยวด้วยพวงมาลัยหนังแท้จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ เบาะนั่งจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ บุผ้า Dinamica แบบสปอร์ตสีดำ Carbon Black ที่รับกับการตกแต่งห้องโดยสารในสไตล์ MINI Yours Piano Black Illuminated พื้นผิวห้องโดยสารสีดำมันวาว พร้อมติดตั้งระบบแสงไฟสร้างบรรยากาศที่บริเวณมือจับประตู ที่สามารถเลือกได้ถึง 12 สี เข้ากับทุกอารมณ์และบรรยากาศ
นอกจากนี้ มินิ คูเปอร์ เอส Ice Blue Edition ยังตอกย้ำคาแร็คเตอร์สไตล์อังกฤษที่โดดเด่นของมินิรุ่นล่าสุด ด้วยไฟท้ายในรูปทรงและเส้นไฟ LED ลายธงยูเนียน แจ็คแห่งสหราชอาณาจักร และไฟหน้าแบบวงแหวนเต็มวงในดีไซน์ใหม่ที่ให้ความสว่างมากขึ้นทั้งในโหมดไฟต่ำและไฟสูง ด้วยไฟหน้า LED พร้อมด้วยไฟ LED Daytime Running Light และฟังก์ชันไฟเลี้ยวภายในวงแหวนเดียวกัน โดยไฟจะเปลี่ยนสีจากสีขาวเป็นสีส้มขณะที่ทำการเปิดไฟเลี้ยว รวมถึงความพิเศษของแพ็คเกจ MINI Excitement ด้วย Logo Projection ที่สร้างเอกลักษณ์สะดุดตาด้วยการฉายโลโก้มินิลงบนพื้นนอกตัวรถบริเวณฝั่งคนขับเมื่อเปิดหรือปิดประตูรถ และรุ่นพิเศษนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีล่าสุดอย่างแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charging) ติดตั้งบริเวณช่องในที่วางแขนกึ่งกลางตัวรถ โดยสามารถวางโทรศัพท์รุ่นที่รองรับระบบการชาร์จไร้สายบนแท่นเพื่อชาร์จได้เลย
อีกหนึ่งไฮไลท์เพื่อสร้างความพิเศษให้กับลูกค้าและเพิ่มเอกลักษณ์หนึ่งเดียวให้กับตัวรถเฉพาะรุ่นนี้เท่านั้น ลูกค้าที่จองมินิ Ice Blue Edition ทุกท่านจะสามารถออกแบบกรอบไฟเลี้ยวด้านข้าง (MINI side scuttles) ได้ด้วยตนเอง ซึ่งมินิจะใช้เทคโนโลยีเครื่องพิมพ์สามมิติในการสร้างสรรค์กรอบไฟเลี้ยวด้านข้างของตัวรถตามความต้องการของลูกค้า โดยสามารถเลือกสี ดีไซน์ และใส่ชื่อตนเองหรือตัวอักษรได้ผ่านทางเว็บไซต์ ซึ่งจะใช้เวลาผลิตประมาณ 6 สัปดาห์หลังจากได้รับการยืนยันแบบและส่งให้กับลูกค้า
มินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ 3 ประตูและ 5 ประตู Ice Blue Edition ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซิน 4 สูบ ให้พละกำลังสูงสุด 141 กิโลวัตต์ / 192 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตรที่ 1,350 – 4,600 รอบต่อนาที ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic คลัทช์คู่ 7 จังหวะ ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลา 6.7 วินาทีสำหรับมินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ 3 ประตู และ 6.8 วินาทีสำหรับมินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ 5 ประตู พร้อมด้วยเทคโนโลยีการขับขี่และระบบความปลอดภัยล้ำสมัยเพื่อมอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่ในทุกเส้นทาง
มินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ 3 ประตู Ice Blue Edition
ราคาจำหน่าย 2,880,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)
มินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ 5 ประตู Ice Blue Edition
ราคาจำหน่าย 2,920,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)