Last updated: 3 ก.ย. 2563 | 1012 จำนวนผู้เข้าชม |
BMW Xpo 2020 เดินหน้าอวดโฉมยนตรกรรมพรีเมียมทั้งสี่มุมเมืองตลอดสี่สัปดาห์ เติมเต็มสุดพลังทุกทางเลือกให้ลูกค้าโดยเฉพาะ
กรุงเทพฯ. มหกรรมประจำปีสำหรับคนรักบีเอ็มดับเบิลยู BMW Xpo กลับมาอีกครั้งเพื่อมอบความตื่นตาตื่นใจด้วยข้อเสนอสุดพิเศษกับหลากหลายรุ่นรถยนต์ที่มีมาให้เลือกสรร ในรูปแบบที่ตอกย้ำที่สุดของพลังแห่งทางเลือกจากบีเอ็มดับเบิลยู โดยปีนี้จะเป็นปีแรกที่ BMW Xpo ขยายพื้นที่การจัดแสดง ด้วยการออกเดินทางไปหาลูกค้าถึงที่ กับการยกขบวนรถยนต์ไปจัดงานทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑลถึง 4 แห่ง ตลอด 4 สัปดาห์ เพื่อมอบที่สุดของประสบการณ์แห่งยนตรกรรมระดับพรีเมียมให้แฟน ๆ และลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดมากกว่าที่เคย
สำหรับวันและสถานที่ในการจัดงาน BMW Xpo 2020 ในทั้ง 4 สัปดาห์ มีดังนี้:
· BMW Xpo ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 วันที่ 10-13 กันยายน 2563
· BMW Xpo ณ ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์และเอ็มโพเรียม วันที่ 17-20 กันยายน 2563
· BMW Xpo ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า เวสต์เกต วันที่ 24-27 กันยายน 2563
· BMW Xpo ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว วันที่ 1-4 ตุลาคม 2563
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย สานต่อความแข็งแกร่ง แม้เผชิญวิกฤติโควิด-19
สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ได้สร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวงให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าต่อไปด้วยความแข็งแกร่ง หลังจากที่ทั้งแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิต่างทำผลงานได้ดีกว่าสถิติช่วงครึ่งปีแรกของตลาดรถยนต์ในประเทศ ทั้งในภาพรวมและในเซกเมนต์รถยนต์พรีเมียม
มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “โลกของเรากำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของเราตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็ยังคงเป็นปัจจัยบวกที่สนับสนุนให้เรายังฝ่าฟันอุปสรรคนี้ต่อไปได้ ด้วยยอดส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิกว่า 4,164 คัน ตลอดครึ่งแรกของปี 2563 หรือลดลง 24% เมื่อเทียบปีต่อปี ซึ่งนับเป็นอัตราที่ดีกว่าตลาดในภาพรวมที่มียอดขายลดลง 41.5% ขณะที่ยอดขายของเซกเมนต์รถยนต์พรีเมียมลดลงที่ 35.5% ความแข็งแกร่งนี้ทำให้ส่วนแบ่งตลาดรถยนต์พรีเมียมของเราขยายตัวขึ้นเป็น 43.6% หรือคิดเป็นการเติบโตถึง 6% ในช่วงครึ่งปีแรก”
ความแข็งแกร่งนี้ยังสะท้อนต่อไปถึงบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ที่มียอดส่งมอบมอเตอร์ไซค์ทั้งหมด 616 คันลดลงเล็กน้อยที่ 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่รถยนต์มือสองของบีเอ็มดับเบิลยูกลับทำผลงานสวนกระแสตลาด ด้วยยอดขายทั้งสิ้น 727 คัน สูงขึ้นถึง 15%
“เรายังคงมีความมุ่งมั่นที่แรงกล้าในการขับเคลื่อนนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าให้ก้าวสู่การเป็นมาตรฐานใหม่ แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ โดยภายในครึ่งแรกของปีนี้ เราได้เผยโฉมรุ่นรถยนต์ไฟฟ้าจากทั้งแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิถึง 4 รุ่น ขณะที่โครงการ ChargeNow ยังขยายเครือข่ายอย่างต่อเนื่องกับแผนการเปิดให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะตลอดทั้งปี ปัจจุบัน เครือข่ายของ ChargeNow รวมทั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ผู้จำหน่ายของเรามีให้บริการทั้งหมด 141 หัวจ่ายใน 63 แห่งทั่วประเทศไทย ซึ่งทุกหัวจ่ายของเครือข่าย ChargeNow สามารถอัดประจุไฟฟ้าได้ทั้งรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าล้วนในทุกรุ่นและทุกแบรนด์ และคาดว่าจะสามารถขยายเครือข่ายทั้งหมดให้ก้าวสู่จำนวนรวม 150 หัวจ่ายได้ภายในปี 2563”
“ด้วยยอดขายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูปลั๊กอินไฮบริดที่พุ่งสูงขึ้น เราจึงได้เห็นลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูและมินิเลือกติดตั้งตู้ชาร์จ i Wallbox ที่บ้านและสำนักงานของตนเอง รวมเป็นจำนวนกว่า 1,230 ตู้ นับตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา โดยตามข้อมูลและสถิติที่เรามี ลูกค้านิยมติดตั้งตู้ชาร์จที่บ้านและที่ทำงานมากขึ้น เพราะสามารถใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยระบบขับเคลื่อนแบบไฟฟ้าล้วนได้ในทุก ๆ วัน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการติดตั้งตู้ชาร์จเป็นจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบัน เราคาดว่าจะสามารถติดตั้งตู้ชาร์จ i Wallbox ณ บ้านและสำนักงานของลูกค้าเพิ่มขึ้นรวม 1,840 จุดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้”
BMW Xpo 2020 สานต่อ 11 ปีแห่งความ ‘JOY’ กับการจัดงาน 4 แห่งทั่วเมือง
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้ยกระดับความมุ่งมั่นในการนำเสนอทางเลือกที่หลากหลายที่สุดในการเป็นเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูให้กับลูกค้า โดยงาน BMW Xpo ที่จัดขึ้นในทุก ๆ ปีนั้น ก็ถือกำเนิดขึ้นโดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ เพื่อดึงที่สุดแห่งประสบการณ์สไตล์บีเอ็มดับเบิลยูมาให้ลูกค้าได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ผ่านการยกทัพรถยนต์จากโชว์รูมสู่ศูนย์การค้าที่ผู้คนแวะเวียนผ่านไปผ่านมาเป็นประจำ
“เราได้ส่งมอบที่สุดของความเพลิดเพลินในการขับขี่ให้กับลูกค้าในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า สมรรถนะที่เปี่ยมด้วยความคุ้มค่าของเครื่องยนต์ดีเซล หรือขุมพลังเบนซินที่เร้าใจทุกสัมผัส ที่พร้อมตอบสนองความต้องการเฉพาะตัวของลูกค้าแต่ละคน โดยผู้ที่ชื่นชอบประสิทธิภาพในด้านความประหยัดของเครื่องยนต์ดีเซลสามารถมั่นใจได้เต็มเปี่ยมสำหรับอนาคต เพราะรถยนต์รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ที่จำหน่ายในปัจจุบันของเราทุกรุ่นผ่านการรับรองเพื่อใช้งานกับน้ำมันไบโอดีเซล B10 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยการเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงประเภทนี้จะไม่มีผลกระทบใด ๆ กับการรับประกันเครื่องยนต์” มร. กัลดริค ดอนเนอซาน ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย กล่าว “สำหรับมหกรรม BMW Xpo 2020 เป็นอีกหนึ่งโอกาสที่เราจะมอบทางเลือกมากมายให้กับลูกค้า ในวัน เวลา และสถานที่ ที่ทุกคนจะสามารถสัมผัสประสบการณ์ความเพลิดเพลินที่บีเอ็มดับเบิลยูมอบให้ได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เรายังมีหลากหลายข้อเสนอสุดพิเศษมานำเสนอ เพื่อให้ลูกค้าได้เป็นเจ้าของยนตรกรรมระดับพรีเมียมได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น รวมไปถึงรถยนต์รุ่นยอดนิยมอย่างบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ที่หรูหราเหนือระดับ หรือบีเอ็มดับเบิลยู X1 ที่พร้อมโลดแล่นสู่ทุกภารกิจในตัวเมือง”
ข้อเสนอสุดพิเศษภายในงาน BMW Xpo 2020
มหกรรม BMW Xpo 2020 มาพร้อมกับข้อเสนอสุดพิเศษที่คัดสรรมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยู ด้วยทางเลือกที่หลากหลายกว่าเคย
ลูกค้าที่เลือกจองรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูภายในงาน BMW Xpo 2020 และมีกำหนดส่งมอบรถภายในวันที่ 30 กันยายน 2563 จะได้รับข้อเสนอพิเศษดังนี้*:
· บัตรเติมน้ำมัน มูลค่า 10,000 บาท สำหรับรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู X1 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 2 และบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3
· บัตรเติมน้ำมัน มูลค่า 20,000 บาท สำหรับรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 4 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 บีเอ็มดับเบิลยู X3 บีเอ็มดับเบิลยู X4 บีเอ็มดับเบิลยู X5 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 6 Gran Turismo และบีเอ็มดับเบิลยู Z4
· บัตรเติมน้ำมัน มูลค่า 30,000 บาท สำหรับรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 บีเอ็มดับเบิลยู X6 บีเอ็มดับเบิลยู X7 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 8 และทุกรุ่นในตระกูล บีเอ็มดับเบิลยู M และบีเอ็มดับเบิลยู i
o ลูกค้าที่จองรถยนต์รุ่นใดก็ได้ในงาน BMW Xpo 2020 จะได้รับโมเดลรถยนต์ BMW Miniature Cars ฟรี
นอกจากนี้ ลูกค้าที่เลือกเป็นเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นต่าง ๆ ต่อไปนี้ ภายใต้ข้อตกลงทางการเงินกับบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย และมีกำหนดส่งมอบรถยนต์ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2563 จะได้รับข้อเสนอพิเศษดังนี้:
มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย (กลาง), มร. กัลดริค ดอนเนอซาน ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย (ซ้าย), คุณกฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย (ขวา)
มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย (ซ้าย), มร. กัลดริค ดอนเนอซาน ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย (กลาง), คุณกฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย (ขวา)
มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
มร. กัลดริค ดอนเนอซาน ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย
คุณกฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
# # #
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ, โรลส์-รอยซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด โดยมีเครือข่ายการผลิต 31 แห่งใน 15 ประเทศ อีกทั้งยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก
ในปี พ.ศ. 2562 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขายรถยนต์กว่า 2.5 ล้านคัน เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนหน้า 1.2% และมอเตอร์ไซค์ 175,000 คันทั่วโลก เพิ่มขึ้น 5.8% จากปีก่อนหน้า กลุ่มรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (BEV) เติบโตขึ้น 2.2% จากยอดการส่งมอบ 145,815 คันในปีที่ผ่านมา โดยมียอดส่งมอบทั้งหมดจนถึงปี 2562 รวมแล้วกว่า 500,000 คันทั่วโลก โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มีพนักงานทั้งหมด 133,778 คนทั่วโลก
ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี สร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และให้บริการกับลูกค้าอย่างดีที่สุด นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วย
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2541 ประกอบด้วยสามบริษัท ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการขายและการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยู และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านบริการทางการเงินสำหรับผู้จำหน่ายรถยนต์และลูกค้าบุคคล
ในปี 2562 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยสถิติส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิจำนวน 12,954 คัน โดยมินิ ประเทศไทยได้สร้างสถิติยอดการเติบโตที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดมินิทั่วโลก ด้วยยอดส่งมอบรถยนต์
1,204 คัน เพิ่มขึ้นถึง 15% จากปีก่อนหน้า ส่วนเซกเมนต์รถหรู ที่ขับเคลื่อนด้วยยอดขายจากบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 บีเอ็มดับเบิลยู
ซีรีส์ 8 บีเอ็มดับเบิลยู X7 และบีเอ็มดับเบิลยู i8 เติบโตโดยรวมที่ 39% เมื่อเทียบปีต่อปี ขณะที่รถยนต์ที่ผ่านการใช้งานแล้วภายใต้โปรแกรม BMW Premium Selection มีอัตราการเติบโตที่ 16% เมื่อเทียบปีต่อปี
ในด้านการผลิต โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อตลาดในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะตลาดประเทศไทย ว่าเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ตั้ง ฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง และพนักงานผู้เชี่ยวชาญในด้านยนตรกรรม ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนู
แฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการประกอบยนตรกรรมของบีเอ็มดับเบิลยูในภูมิภาคอาเซียนที่ผ่านมานอกจากนี้ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายกระบวนการประกอบภายในโรงงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สืบเนื่องจากการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตในประเทศและเพื่อส่งออก คิดเป็นมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาทต่อปี บีเอ็มดับเบิลยูจึงจัดตั้งสำนักงานจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นในประเทศไทยด้วย เพื่อจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์จากซัพพลายเออร์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับเครือข่ายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยู 31 แห่ง ใน 15 ประเทศทั่วโลก
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถประกอบรถยนต์รุ่นต่างๆ ทั้งหมด 16 รุ่น ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 Gran Turismo บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 บีเอ็มดับเบิลยู X1 บีเอ็มดับเบิลยู X3 และ
บีเอ็มดับเบิลยู X5 สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 900 R บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR บีเอ็มดับเบิลยู
F750 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R และบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทยยังขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด 5 รุ่นในประเทศไทย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 330e บีเอ็มดับเบิลยู 530e
บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e และบีเอ็มดับเบิลยู 745Le xDrive
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
1397
www.bmw.co.th
www.mini.co.th
www.bmw-motorrad.co.th
สื่อมวลชนติดต่อ บริษัท คาร์ลบายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
สุธาทิพย์ บุญแสง (08-7685-1695 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 102)
ธรธวัช ทองแนบ (08-3225-4567 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 206)
ปวริศา ธนวจีรัณ (08-6564-4726 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 125)
พิชานัน ทูลกำธรชัย (08-5157-7557 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 101)
sboonsaeng@carlbyoir.com, tthongnab@carlbyoir.com, pthanwajeran@carlbyoir.com, ptoonkamthornchai@carlbyoir.com