เปิดตัว The New Mercedes-Benz C-Class (W206)

The New Mercedes-Benz C-Class model year 2022 (W206) ได้ฤกษ์เปิดตัวพร้อมลุยตลาดโลก แค่เห็นภาพเปิดตัวก็สร้างกระแสไวรัลแชร์กระหึ่มทั่วโซเชียล เรียกได้ว่าหล่อแพ็คคู่ทั้งรุ่นซีดาน และเอสเตท





มิติตัวถังใหญ่กว่าเจนก่อนเล็กน้อย ยาวขึ้น 65 มม. และกว้างขึ้น 10 มม. เส้นหลังคาที่สโลบทําให้รถดูแบนเตี้ยกว่าเดิม จากการขยายพื้นที่ภายในห้องโดยสารทําให้มีพื้นที่ส่วนศรีษะ ส่วนข้อศอก และส่วนหัวไหล่เพิ่มมากขึ้น นั่งสบายปลอดโปร่งกว่าทั้งด้านหน้าและหลัง โดยเฉพาะพื้นที่วางเท้าของผู้โดยสารด้านหลังมีให้มากกว่าเดิมอีกด้วย โดดเด่นตระการตาด้วยหน้าปัด Digital Instrument Cluster ขนาดใหญ่ถึง 12.3” และจอกลางทัชกรีนขนาดใหญ่ถึง 11.9” ที่แสดงผลคมชัดสีสันสวยสดสมจริงแบบ Hi-Res มาพร้อมระบบ MBUX เจน 2 ที่ฉลาดลํ้ากว่า ภายในตกแต่งอย่างหรูลํ้ายุคถอดแบบมาจากพี่ใหญ่สุดเทพของตระกูล (The New S-Class) เพียงแค่ดูรูปประกอบเชื่อว่าค่ายใบพัดมีหนาว เหนือชั้นด้วยวัสดุที่ใช้ตกแต่งระดับพรีเมียม พวงมาลัย AMG ดีไซน์ใหม่สุดเฟี้ยว เบาะนั่งที่ถูกออกแบบมาอย่างหรูหราหมาเห่าชนิดที่ต้องยอมรับทีมออกแบบภายในของค่ายดาวสามแฉกจริงๆ ว่าทําการบ้านมาเหนือคู่แข่งไปไกลมาก! พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถอยู่ที่ 455 ลิตรในรุ่นซีดาน 490 ลิตรสําหรับรุ่นเอสเตท แต่เมื่อพับเบาะหลังจะได้พื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 1,510 ลิตรเลยนะ!





ด้ามขุมพลังมีให้เลือกหลายรุ่น แต่รุ่นที่ดูแล้วเข้าตาทีมงาน FOC ซึ่งเราคาดว่าน่าจะถูกนํามาทําตลาดในบ้านเราอย่างยิ่ง คือรุ่น C300 ที่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบเทอร์โบ 2.0 ลิตรให้กําลังสูงสุด 255 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตัน-เมตร พ่วงด้วย Integrated Starter Generator (ISG) ที่เสริมม้าให้อีก 20 แรงม้า 200 นิวตัน-เมตร ส่งกําลังด้วยเกียร์ออโต้ 9 สปีด Automatic 9G ขับเคลื่อนล้อหลัง อัตราเร่ง 0-96 กม/ชม ภายใน 5.9 วินาที ตีนปลาย 209 กม/ชม




C200 ก็เป็นอีกรุ่นที่มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นเอามาทําตลาดในไทย ด้วยเครื่องยนต์เล็กและประหยัดกว่า แบบ4 สูบเทอร์โบ 1.5ลิตร ให้กําลัง 201 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตัน-เมตร บวก EQ boost (ISG) ให้อัตราเร่ง 0-96กม/ชม ภายใน 7.3 วินาที




C220d ตัวเต็งที่ทีมงานเดาว่ามาแน่ ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร ให้กําลังสูงสุด 197 แรงม้า แรงบิด 440 นิวตัน-เมตร




C300e ขอเดาเป็นรุ่นสุดท้ายที่มีโอกาสได้เห็น MBTH เอาเข้ามาลุยตลาด ด้วยระบบ Plug-in Hybrid (PHEV) ผสานการทํางานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4สูบเทอร์โบ 2.0 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้าทรงพลังกว่าที่เคย ให้กําลังรวมสูงสุด 308 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 550 นิวตัน-เมตร รุ่นนี้เจ๋งไปอีกขั้นด้วยแบตเตอรี่ความจุเยอะกว่าทุกครั้งที่ 25.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง ขับด้วยโหมดไฟฟ้าเพียวๆได้ระยะทางไกลถึง 100 กม.กันแล้ว!! สุดปัง⚡️⚡️⚡️
และเป็นครั้งแรกสําหรับรุ่น PHEV ที่ติดตั้งช่วงล่างแบบถุงลม (Air Suspension) มาให้อีกด้วย! แถมมีข่าวดีเพิ่มรุ่นนี้จะได้พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถเพิ่มเนื่องจากครั้งนี้เปลี่ยนที่วางตําแหน่งแบตใหม่ไม่อยู่ที่ท้ายรถแล้ว คิดว่าน่าจะวางอยู่ใต้ท้องรถระหว่าง้อหน้าและล้อหลังแทน



นอกจากนี้ยังมีออฟชั่นเสริม “ระบบเลี้ยวล้อหลัง” เพื่อวงเลี้ยวแคบลงคล่องตัวกว่าเวลาเข้าที่จอดที่คับแคบ ด้วยวงเลี้ยวเหลือเพียง 10.64 เมตรเท่านั้น โดยล้อหลังสามารถเลี้ยวในทิศทางตรงข้ามกับพวงมาลัย 2.5 องศา (ยังเลี้ยวน้อยกว่าของ New S-Class 4 เท่า!) ในช่วงความเร็วไม่เกิน 60 กม/ชม และจะเลี้ยวไปในทิศทางเดียวกับล้อหน้าเมื่อความเร็วเกิน 60 กม/ชม ขึ้นไปเพื่อเพิ่มเสถียรภาพความมั่นคงเมื่อขับด้วยความเร็วสูง

New C-Class (W206) ทั้งรุ่นซีดาน และเอสเตทพร้อมทําตลาดในยุโรปเป็นกลุ่มแรกก่อนเพื่อน ลูกค้าที่ยุโรปสามารถสั่งจองได้ช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ ส่วนตลาดในอเมริกาต้องรอถึงต้นปีกหน้านู้น ส่วนในไทยไว้รอถามผู้บริหารให้ว่าจะเปิดตัวเมื่อไร รับรองได้เลยว่าเจนใหม่มาแรงแน่นอน!