Last updated: 16 ส.ค. 2564 | 1009 จำนวนผู้เข้าชม |
ออโตโมบิลี ลัมโบร์กินี เปิดตัว คูนทาช แอลพีไอ 800-4 (Countach LPI 800-4) รถรุ่นพิเศษจำนวนจำกัดที่ถูกสร้างมาเพื่อระลึกถึงตำนานอย่างรุ่น Countach และได้ปรับแต่งองค์ประกอบต่างๆ ให้ร่วมกับยุคสมัยปัจจุบัน
การออกแบบเส้นสายของตัวรถที่นำมาจากรุ่น Countach และเครื่องยนต์อันเป็นเอกลักษณ์ของลัมโบร์กินีอย่างเครื่องยนต์ V12 ที่ถูกพัฒนาให้ทำงานร่วมกับระบบซูเปอร์คาปาซิเตอร์ ส่งผลให้ Countach LPI 800-4 ยังคงประสบการณ์การขับขี่ที่ดุดันและเสียงที่เร้าใจตามสไตล์เครื่องยนต์ไร้ระบบอัดอากาศ รวมถึงการนำเทคโนโลยีไฮบริดที่พัฒนาขึ้นสำหรับ Sián มาใช้ ด้วยพละกำลังสูงสุดถึง 814 แรงม้า ส่งกำลังไปยังระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ส่งผลให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. และ 0-200 กม./ชม. ทำได้ในเวลาเพียง 2.8 และ 8.6 วินาทีตามลำดับ โดยความเร็วสูงสุดนั้นอยู่ในระดับ 355 กม./ชม.
“Countach LPI 800-4 เป็นรถที่ล้ำสมัยในยุคของมัน เหมือนดังที่ Countach รุ่นแรกเป็น สำหรับลัมโบร์กินี Countach ไม่ได้เป็นเพียงวิศวกรรมยานยนต์ที่เราได้ออกแบบขึ้นมาชิ้นหนึ่ง แต่ยังเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาของเราในการบรรลุเป้าหมายที่จะรังสรรค์สิ่งที่เหนือความคาดหมาย จนกลายเป็น “รถในฝัน” ของผู้คนจำนวนมาก Countach LPI 800-4 ยึดถือในหลักการของแบรนด์ลัมโบร์กินีไว้อย่างเหนียวแน่นและสามารถสื่อถึงพลังของแบรนด์ได้อย่างชัดเจนในทุกๆ อณู ไม่ว่าจะเป็นเมื่อตอนที่เราเห็นทรวดทรงของตัวรถ การฟังเสียงเครื่องยนต์แผดคำราม และที่แน่นอนคือประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ” สเตฟาน วิงเคิลมันน์ ประธานและ CEO ของออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี กล่าว
Countach – นิยามใหม่ของการดีไซน์ซูเปอร์สปอร์ตคาร์
Lamborghini Countach LPI 800-4 นั้นได้รับการถ่ายทอดดีเอ็นเอจากโฉมก่อน เพื่อเป็นการสืบต่อตำนานของดีไซน์ Countach ที่เป็นไอคอนในยุค 1980 เอกลักษณ์เฉพาะอีกอย่างของรุ่น Countach คือชื่อรุ่นที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับกระทิง ซึ่งเป็นธรรมเนียมของแบรนด์มาตลอด ความหมายของคำว่า Countach นั้นคือการทำให้ตื่นเต้นหรือเต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจของภาษาท้องถิ่นของชาว Piedmont แคว้นที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิตาลี
“Countach รุ่นแรกถูกตั้งโชว์ไว้ที่ Centro Stile ของเรามาหลายปีแล้ว ทุกครั้งที่ผมเห็นมัน มันทำให้ผมรู้สึกขนลุกและเป็นเครื่องเตือนใจที่ดีให้กับทั้งผมและทีมว่าต้องคอยพัฒนาการออกแบบรถลัมโบร์กินีให้ล้ำยุคอยู่เสมอ นี่เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้เพราะมันคือเอกลักษณ์ของแบรนด์ลัมโบร์กินี” มิทจา บอร์คเกิร์ต หัวหน้า Lamborghini Centro Stile กล่าว
ดีไซน์เส้นสายรูปแบบเฉพาะของ Countach เห็นชัดได้จากแนวเส้นที่ลากจากด้านหน้าไปสู่ด้านท้ายของรถ มุมสันที่ชัดเจนแหลมคมสื่อถึงดีไซน์ของรถซูเปอร์สปอร์ตสมัยใหม่ และยังเป็นแนวทางการดีไซน์รถรุ่นใหม่ของลัมโบร์กินีอีกด้วย Countach LPI 800-4 ได้รวบรวมเอาคาร์แรคเตอร์ของเส้นสาย Countach ทั้ง 5 รุ่นที่ได้รับการพัฒนาในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา จนกลายมาเป็นดีไซน์ที่ตอกย้ำความเป็นไอคอนแห่งการออกแบบยานยนต์แห่งยุคสมัย
ดีไซน์ของ Countach LPI 800-4 มีการผสานกันระหว่างดีไซน์ของรุ่น LP 500 และ LP 400 ทำให้ด้านหน้าของ Countach LPI 800-4 โดดเด่นและแตกต่างด้วยฝากระโปรงที่ลาดยาว กระจังหน้าและไฟหน้าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า และดีไซน์ซุ้มล้อแบบตัดเหลี่ยม เส้นสายของตัวรถจากด้านหน้าถึงหลังรถมีความเรียบเนียน เพื่อให้ทรวดทรงโดยรวมไม่เปลี่ยนแปลง โดยตัวรถนั้นได้รับการติดตั้งช่องดักอากาศบริเวณช่วงโป่งหลังของรถและประตู เพื่อเพิ่มสมรรถนะให้กับรถและเสริมความดุดันให้มากยิ่งขึ้น
ด้านท้ายของ Countach LPI 800-4 นั้นโดดเด่นด้วยการคงเอกลักษณ์เดิมอยู่ เช่นไฟท้ายสามส่วน ท่อไอเสียเป็นแบบสี่ท่อเหมือนกับรุ่นดั้งเดิมซึ่งติดตั้งไว้บริเวณดิฟฟิวเซอร์คาร์บอนไฟเบอร์ ประตูเข้าออกรถเป็นแบบปีกนก ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของรถยนต์เครื่องยนต์ V12 ของค่ายลัมโบร์กินี และ Countach เป็นรถรุ่นแรกที่ใช้ประตูรูปแบบนี้ของแบรนด์อีกด้วย
บรรทัดฐานสมรรถนะแห่งโลกอนาคต
เครื่องยนต์ V12 ของ Countach เป็นตำนานเฉกเช่นเดียวกับดีไซน์ของตัวรถ ด้วยรูปแบบการวางเครื่องยนต์ด้านหลังและหม้อน้ำด้านข้างตัวรถแบบรถแข่ง Formula 1 รวมไปถึงตัวถังเทคโนโลยี Spaceframe เทคโนโลยีที่มาพร้อมกับตัวรถตอนนั้นเป็นการปฏิวัติวิศวกรรมของวงการยานยนต์เช่นเดียวกับดีไซน์ของรถ เหตุผลที่เครื่องยนต์ถูกวางไว้ด้านหลังนั้นเพื่อให้การกระจายน้ำหนักเป็นไปได้อย่างสมดุลและเพื่อการตอบสนองที่ดีที่สุดในการขับขี่ ซึ่ง Countach LPI 800-4 นั้นได้นำเทคโนโลยีขั้นสูงสุดของลัมโบร์กินีหลายๆ ส่วนมารวมกัน เพื่อสร้างบรรทัดฐานให้กับคลาสซูเปอร์สปอร์ตคาร์อีกครั้งในปี 2021 นี้
“ทีมวิศวกรที่พัฒนา Countach โฉมแรกนั้นได้คิดค้นนวัตกรรมมากมายเพื่อให้ตัวรถเป็นสุดยอดสปอร์ตคาร์ในเวลานั้นๆ ความตั้งใจของทีมวิศวกรนั้นเป็นแรงผลักดันให้แผนกค้นคว้าและวิจัยของลัมโบร์กินีไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนา จึงทำให้ได้ค้นพบเทคโนโลยีไฮบริดในรุ่น Countach LPI 800-4 นี้ ซึ่งเป็นสมรรถนะสูงสุดของรถเรือธงจากค่าย” มิวริซิโอ เรจจิอานี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค ออโตโมบิลี ลัมโบร์กินี กล่าว
เครื่องยนต์ V12 6.5 ลิตรของลัมโบร์กินีสามารถสร้างแรงม้าได้สูงสุด 780 ตัว และเมื่อทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกับระบบส่งกำลัง จะช่วยเพิ่มแรงม้าขึ้นมาอีก 34 แรงม้า เพื่อการตอบสนองที่ฉับไวและยังช่วยเพิ่มสมรรถนะโดยรวมอีกด้วย พลังงานของตัวมอเตอร์นั้นมาจากซูเปอร์คาปาซิเตอร์ที่สามารถให้พละกำลังได้มากกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ชนิดลิเธียมไอออนที่น้ำหนักเท่ากัน
โครงสร้างตัวถังแบบโมโนค๊อกและตัวถังของรถส่วนใหญ่นั้นใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เพื่อลดน้ำหนักและเพิ่มความแข็งแรงให้กับตัวถังไปในตัว Countach LPI 800-4 มีน้ำหนักตัวถังเพียง 1,595 กิโลกรัมและแรงม้าต่อน้ำหนักที่ 1.95 กิโลกรัมต่อแรงม้า ภายนอกตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์บริเวณชายล่างด้านหน้า กระจกมองข้าง ช่องดักอากาศเครื่องยนต์ ชายล่างด้านข้าง และดิฟฟิวเซอร์ด้านหลัง ยิ่งไปกว่านั้นภายในยังใช้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบสามมิติสำหรับดีไซน์ช่องแอร์แบบใหม่และหลังคาที่สามารถปรับแสงได้เพื่อให้ทึบหรือใส เพื่อเป็นการย้ำเตือนว่าแม้แรงบันดาลใจรถจะมาจากตำนานในอดีต แต่รถคันนี้จะเป็นบรรทัดฐานใหม่ของรถยนต์แห่งทศวรรษที่ 21
เปิดตัวครั้งแรกที่ The Quail สหรัฐอเมริกา
Countach LPI 800-4 เปิดตัววันนี้ที่ The Quail สหรัฐอเมริกา มาในสีตัวถังพิเศษอย่างสีขาว Bianco Siderale อมฟ้าประกายมุก เหมือนกับรถของผู้ก่อตั้งแบรนด์อย่าง เฟอร์รุชโช ลัมโบร์กินี ที่เป็นรุ่น Countach LP 400 S โดยภายในเน้นเอกลักษณ์การสืบทอดความเป็น Heritage ด้วยวัสดุหนังสีดำตัดกับสีแดงเพิ่มความพิเศษให้กลิ่นอายของการดีไซน์ในยุค 1970
Countach LPI 800-4 มาพร้อมกับล้อหน้าขนาด 20” และล้อหลังขนาด 21” ระบบเบรกเซรามิคและยาง Pirelli P Zero Corsa
เจ้าของรถที่สั่งซื้อ Countach LPI 800-4 สามารถเลือกสีตัวถังภายนอกได้หลากหลายสี ไม่ว่าจะเป็นสีที่สะท้อนความเป็น Heritage Style ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสีแบบ Solid เช่น สีที่โดดเด่นอย่างสีขาว Impact White Giallo Countach และ สีเขียว Verde Medio หรือหากเจ้าของรถต้องการสีที่มีความร่วมสมัยมากขึ้น ก็ยังมีสีแบบเมทัลลิกให้เลือกตามชอบ เช่นสียอดนิยมอย่างสีม่วง Viola Pasifae หรือสีฟ้า Blu Uranus.
หน้าจอสัมผัสขนาด 8.4” บริเวณคอนโซลกลางของ LPI 800-4 มาพร้อมระบบ Apple CarPlay และยังมีปุ่มเฉพาะของตัวรถรุ่นนี้ที่ระบุว่า ‘Stile’ ซึ่งเมื่อกดปุ่มแล้วตัวรถจะเล่าถึงปรัชญาการดีไซน์ของ Countach ให้แก่ผู้ที่ครอบครองรถคันนี้
การผลิตจำนวนจำกัดเพียง 112 คันทั่วโลก สอดคล้องกับหมายเลขของชื่อ 'LP 112' ซึ่งเป็นชื่อโปรเจคภายในที่ใช้ระหว่างการพัฒนาของ Lamborghini Countach ดั้งเดิม สำหรับ Countach LPI 800-4 จะเริ่มส่งมอบในไตรมาสแรกของปี 2022 ให้กับเจ้าของรถ ซึ่งนับเป็นอภิสิทธิ์พิเศษที่ได้ครอบครองยนตรกรรมที่เป็นตำนานอีกครั้งในโฉมปัจจุบัน
Technical Data – Lamborghini Countach LP 800-4
CHASSIS AND BODY
Chassis Carbon fiber monocoque with aluminum front and rear frames
Body Full exterior body and interior trims (rear panels, door panels,
tunnel, luggage compartment) in carbon fiber
Suspension type Push rod magnetorheological active front and rear suspension
with horizontal dampers and springs
Suspension geometry Aluminum double wishbone fully independent front and rear suspension.
ESP ESC integrating ABS and TCS with different characteristics according to the driving mode selected
Brakes Carbon-ceramic brakes with fixed monoblock calipers in aluminum with 6 pistons (front) and 4 pistons (rear)
Ventilated discs (front – rear) Carbon ceramic brake discs (Ø 400 x 38 mm – Ø 380 x 38 mm)
Steering Hydraulic assisted power steering, with 3 different servotronic characteristics coupled with Lamborghini Dynamic Steering (LDS) and Rear Wheel Steering (RWS), managed by drive select mode
Steering wheel ratio 10:1 – 18:1
Steering wheel turns lock to lock 2.1 – 2.4
Steering wheel diameter 358 mm
Tires (front – rear) New Pirelli P Zero Corsa 255/30 ZR20 – 355/25 ZR21
Rims (front – rear) 9''JX20” H2 ET 17.2 – 13” JX21”H2 ET 51.7
Kerb-to-kerb turning circle 11.5 m (37.73 ft.) - average value, variable due to dynamic condition, thanks to LRS
Mirrors External mirrors heated, electrically adjustable and foldable
Rear spoiler Rear electronically operated spoiler with 3 positions; completely panelled underbody
Airbags Driver, passenger, side airbags. Knee airbags only for specific markets
IC ENGINE
Type V12, 60°, MPI
Displacement 6,498 cc (396.5 cu. in)
Bore and stroke Ø 95 mm x 76.4 mm (3.74 in. x 3 in.)
Valve per cylinder 4
Valve gear Variable valve timing electronically controlled
Compression ratio 11.8 ± 0.2
Maximum power 780 CV (574 kW) at 8,500 rpm
Specific Power output 120 CV/l (88.3 kW/l)
Maximum torque 720 Nm (531 lb.-ft.) @ 6,750 rpm
Engine speed, maximu 8,700 rpm
Emission class EURO 6 - LEV 3
Emission control system Catalytic converters with lambda sensors
Cooling system Water and oil cross flow cooling system with variable air inlets
Engine management system Lamborghini Iniezione Elettronica (LIE) with Ion current analysis
Lubrication system Dry sump
ELECTRIC POWER UNIT
Supercapacitor voltage 48V
Supercap power density 2400 W/kg
Max operative current 600A
Max Power 34 CV
Max Torque 35 Nm
Weight e-machine + supercap 34 kg
DRIVETRAIN
Type of transmission 4WD with Haldex generation IV
Gearbox 7 speed ISR, with e-machine installed on the rear wheels output, shifting characteristic depending on drive select mode
Standard AMT
1st gear ratio 3.909
2nd gear ratio 2.438
3rd gear ratio 1.810
4th gear ratio 1.458
5th gear ratio 1.185
6th gear ratio 0.967
7th gear ratio 0.844
Reverse ratio 2.929
Final drive ratio (rear – front) 2.867 – 3.273
Clutch Dry double plate clutch, Ø 235 mm (9.25 in.)
PERFORMANCE
Top speed 355 km/h (221 mph)
Acceleration 0-100 km/h
[0-62 mph] 2.8 sec.
Acceleration 0-200 km/h
[0-124 mph] 8.6 sec.
Braking 100-0 km/h
[62-0 mph] 30 m
DIMENSIONS AND WEIGHT
Wheelbase 2,700 mm (106.30 in.)
Overall length 4,870 mm (191.73 in.)
Overall width
(excluding/including mirrors) 2,099 mm (82.64 in.)/2,265 mm (89.17 in.)
Overall height 1,139 mm (44.84 in.)
Track (front – rear) 1,784 mm (70.23 in.) – 1,709 mm (67.28 in.)
Ground clearance
(standard – lifting) 115 ± 2 mm (front with lifting 155 mm)
Dry weight 1595 kg (3516 lb)
Total weight permitted 2100 kg (4630 lb)
Weight distribution
(front – rear) 43% - 57%
CAPACITIES
Fuel tank 70 liters
Engine oil 13 liters
Engine coolant 25 liters
Luggage compartment 63 liters
CONSUMPTION NEDC cycle
Urban cycle Pending homologation
Extra urban cycle Pending homologation
Combined Pending homologation
CO2 emission Pending homologation