Last updated: 4 พ.ย. 2562 | 2742 จำนวนผู้เข้าชม |
เชื่อว่าหลายท่านรู้จักแบรนด์ KTM ในฐานะของผู้ผลิตมอเตอร์ไซต์ชื่อดังจากประเทศออสเตรียในทวีปยุโรป ซึ่งจริงๆ แล้ว KTM นั้นได้ผลิตรถยนต์ออกมาจำหน่ายด้วยเช่นเดียวกัน ในชื่อ KTM X-Bow ซึ่งเป็นรถ lightweight street legal หรือรถน้ำหนักเบาหวิวที่สามารถวิ่งได้ถูกต้องตามกฎหมายในทวีปยุโรป โดย KTM ได้เลือกใช้เครื่องยนต์จาก Audi และ Chassis จาก Dallara Automobili ยักษ์ใหญ่สัญชาติอิตาเลียนที่ผลิตโครงสร้างตัวถังรถแข่งโดยเฉพาะ ดีไซน์ด้วยฝีมือของแผนก KISKA ที่รับจ๊อบออกแบบรถให้ KTM มาตั้งแต่ปี 1992 ซึ่งต่อมาทาง KTM ได้พัฒนารถแข่งรุ่นพิเศษโดยจับมือกับ Reiter Engineering สุดยอดทีมแข่งรถจากประเทศเยอรมัน ที่ช่ำชองในการโมฯ Lamborghini เป็นพิเศษ
KTM X-Bow GT4 คันนี้ทีม Vattana Motorsport ได้นำเข้ามาร่วมแข่งขันในรายการ TSS 2016 คลาส GTC เป็นครั้งแรก จุดเด่นของรถคันนี้คงต้องบอกว่าเป็นรถที่ออกแบบมาโดยคำนึงถึงเรื่องของอากาศพลศาสตร์ก่อนความสวยงาม ดังนั้นหน้าตาและรูปลักษณ์ของมันจึงไม่ได้สวยงามขนาดไปเทียบกับค่ายม้าลำพองหรือค่ายกระทิงเปลี่ยว แต่ก็ทดแทนสิ่งเหล่านี้ได้หมดจดด้วยฝีเท้าในการเข้าโค้งที่เฉียบคม และมีน้ำหนักตัวเบาหวิวเพียง 1,025 กิโลกรัมเท่านั้นจากพื้นผิวบอดี้ที่เลือกใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมดรวมถึง Spitter ด้านหน้าและปีกหลัง แม้จะมีกระจกบานใหญ่ยักษ์ที่ใช้วัสดุโพลีคาร์บอเนตมาครอบ cockpit ก็ตาม ซึ่งผมชอบการเปิด-ปิดของกระจกบานนี้มาก เวลาจะขึ้นลงรถมันให้ความรู้สึกเหมือนเครื่องบินรบเลยละ ใต้ท้องรถคลีนด้วยการนำแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์มาปิดส่งผลให้ลมผ่านใต้ท้องรถไปสู่ดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังได้เต็มประสิทธิภาพ ความปลอดภัยก็ผ่านมาตรฐาน FIA ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างตัวถังแบบโมโนค็อกและติดตั้ง Rollcage มาให้คุณใช้อัดในสนามแข่งได้สบาย
X-Bow GT4 มีระบบกันสะเทือนแปลกใหม่ไม่เหมือนใครที่ด้านหน้า ลองมองไปในส่วนใต้กระจกจะเห็นการวางโช้คอัพเป็นแนวนอนที่เรียกว่า Pushrod Suspension หรือระบบโช้คนอนยัน ส่วนด้านหลังเป็นแบบ Pullrod Suspension ซึ่งการออกแบบรถแบบนี้จะเหนือกว่าคู่แข่งชัดเจนในเรื่องของการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงตัวรถแทบจะไม่มีอาการโยนตัวเลย เสริมความมั่นใจในการพิชิตโค้งบนสนามได้แบบชิลๆ ส่วนเครื่องยนต์ใช้แบบ R-4 Mid Mounted 4 สูบแถวเรียง ความจุกระบอกสูบ 2.0 ลิตรเทอร์โบ ให้แรงม้าสูงสุดมาถึง 283 แรงม้า (สามารถอัพแรงม้าได้ถึง 360 แรงม้าที่ 7,200 รอบต่อนาที) อัตราเร่งจาก 0-100 km/ h ทำได้ในเวลาที่น้อยกว่า 3 วินาที พร้อมความเร็วสูงสุดที่วิ่งได้เกินกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ด้านข้างถ้าคุณแกะแผ่นคาร์บอนออกจะพบกับหม้อน้ำระบายความร้อนทั้ง 2 ด้าน ที่ด้านหน้ามีช่องดักลมใหญ่ยักษ์ที่จะดักลมตรงเข้าหา intercooler และส่งต่อเข้าหอยไปรีดม้าเพิ่มมาได้โดยตรง สมองกลอัจฉริยะใช้ของ
ระดับไฮเอนท์ Bosch Motronic ระบบส่งกำลังใช้งานเกียร์ sequential 6 สปีด ที่มาพร้อม Paddle Shift ควบคุมด้วยระบบ Holinger speedshift ภายใน Cockpit ได้รับการออกแบบมาให้ Minimal เรียบง่ายแต่มีดีไซน์เฉพาะตัว แต่เน้นสีดำดุดันเป็นหลัก พวงมาลัยมาพร้อมปุ่มฟีเจอร์มากมายสำหรับสายเรซซิ่งโดยเฉพาะ
ช่วงล่างเป็นแบบ Double wishbone หน้า-หลัง ใช้ล้อลอยจาก OZ Racing ขนาด 18 นิ้วทั้งล้อหน้าและล้อหลัง ส่วนระบบเบรกนั้นใช้คาลิปเปอร์เบรก Reiter racing 6 ลูกสูบหน้า และ 4 ลูกสูบหลัง ขนาดจานเบรกหน้า 380 มิลลิเมตร และจานเบรกหลัง 355 มิลลิเมตร มีฐานล้ออยู่ที่ 2,599 มิลลิเมตร เมื่อผนวกทุกอย่างเข้ากับน้ำหนักตัวที่เบาหวิว ก็ส่งผลให้รถคันนี้พุ่งทะยานไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วพร้อมพิชิตทุกสนามที่เดินทางไปแข่งขัน ซึ่งในทีม Vattana Motorsport มี KTM X-Bow GT4 ครอบครองไว้ถึง 2 คันและได้ยอดนักแข่งมากฝีมืออย่าง นราศักดิ์ อิทธิริทพงษ์ และ Jack Lemvard ลูกครึ่งไทยเดนมาร์ก เข้ามารับหน้าที่เป็นเรซเซอร์หลักให้กับทีมอีกด้วย
สำหรับท่านที่อยากชมความเทพของรถคันนี้ เราแนะนำให้เข้าไปดูคลิปแข่งย้อนหลังของ Thailand Super Series ในปีนี้ดูก็แล้วกัน แม้จะได้รับการถ่วงน้ำหนักเพื่อความสมดุลของรถที่ใช้ในการแข่งขัน แต่นั้นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะล่าสุดพวกเขาก็คว้าแชมป์ประเทศไทยในรายการนี้ไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับใครที่สนใจอยากครอบครองรถคันนี้ ขอให้เตรียมสตางค์มา 13 ล้านบาท คุณได้รถแรงที่ใช้งานบนท้องถนนได้อย่างไม่ผิดกฎหมายพร้อมแอร์เย็นฉ่ำกลับไปด้วยแน่นอน
5 ม.ค. 2565